อันดับที่ 1 TTCL คว้างานใหม่ต่อเนื่อง พร้อมปั้นผลงานปีนี้หวังพลิกกำไร
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ทีทีซีแอล หรือ TTCL โดย นายบุณยกฤต เสาวรรณ นักลงทุนสัมพันธ์ เปิดเผยว่า ล่าสุดบริษัทได้รับงานประเภทโครงการ Refinery and Petrochemical Complex ชื่อโครงการ Timor – Leste Refinery and Petrochemical Complex Project เจ้าของโครงการ TIMOR GAP, E.P. มูลค่าโครงการ ประมาณ 1.5 ล้านเหรียญ สรอ.ขอบเขตของงาน Optimization Design ที่ตั้งโครงการ เมือง Betano ประเทศ สาธารณรัฐประชาธิปไตยติมอร์-เลสเต ระยะเวลาการดาเนินงาน 2561-2562 ด้านโรงไฟฟ้า ahlone ที่เมียนมา คาดว่า ข้อสรุป PPA จะแล้วเสร็จไตรมาส 4 ปีนี้ และรัฐบาลพยายามอยากให้เร่งก่อสร้าง ซึ่งบริษัทพยายามจัดการเรื่องโปรเจคไฟแนนซ์คาดว่าจะจบไม่เกินไตรมาส 2 ปี 62 มูลค่าโครงการ 359 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยมีโอกาสที่ Sojitz จะเข้ามาร่วมลงทุนด้วย โดยบริษัทยังมีวงเงินเพิ่มทุน RO เหลือ 20% มูลค่าประมาณ 112 ล้านบาท
อันดับที่ 2 THAI บวกแรง 17% รับข่าว “สมคิด” เร่งการบินไทยหยุดขาดทุน
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า หุ้นบมจ.การบินไทย หรือ THAI ช่วงเช้าปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 15.70 บาท เพิ่มขึ้น 17% รับข่าว นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้เร่งปรับแผนจัดซื้อเครื่องบินและเส้นทางบินใหม่ให้แล้วเสร็จก่อนสิ้นปีนี้ เพื่อเร่งดำเนินการเพิ่มรายได้ รวมถึงได้ให้รวมมือกับพันธมิตรกับรัฐวิสาหกิจด้วยกันและพันธมิตรเครื่อข่ายสายการบินทั้งในไทยและต่างประเทศขยายการเติบโต ด้านนายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ THAI ก็ได้ประกาศสร้างความมั่นใจว่าจะหยุดขาดทุนในปี 2563 และล้างขาดทุนสะสมในปี 2565 ราว 21,758.50 ล้านบาทเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนได้เป็นอย่างดี
อันดับที่ 3 SELIC ราคาพุ่งกว่า 7.32% แย้มครึ่งหลังผลงานเด่น
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ซีลิค คอร์พ หรือ SELIC ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 7.32% ณ (เวลา 10.35 น.) ราคาหุ้นเคลื่อนไหวอยู่ที่ 2.60 บาท เพิ่มขึ้น 0.14 บาท หรือ 5.69% มูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 14.0 ล้านบาท ขณะที่นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ธนชาต ประเมินแนวโน้มราคาหุ้นว่า มีสัญญาณการปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ในระดับที่ดี ประกอบกับเริ่มมีวอลุ่มการซื้อขายเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นแนะนำให้ “ซื้อเก็งกำไร” ประเมินแนวต้านที่ 2.78 บาท และแนวต้านถัดไปที่ 2.90 บาท ขณะเดียวกันบริษัทยังมุ่งเน้นการนำผลิตภัณฑ์ และกลยุทธ์ใหม่ๆ ออกมามากขึ้น ซึ่งช่วงที่เหลือของปีนี้มองว่ายังไม่เห็นปัจจัยลบเข้ามากดดัน ส่วนตลาดต่างประเทศบริษัทก็มีการขยายอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้กำลังการผลิตของบริษัท ยังมีเพียงพอรองรับกับความต้องการของตลาดและความต้องการสินค้าใหม่ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 9,000 ตัน/ปี และมีอัตราการใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ 70%
อันดับที่ 4 CHO สัปดาห์หน้ามีข่าวดี รับงานใหม่มูลค่า 400ลบ. ดันBacklogพุ่งทะลุ 5พันลบ.
ผู้สื่อข่าว”มิติหุ้น”รายงานว่า บมจ.ช ทวี (CHO) โดย นายสุรเดช ทวีแสงสกุลไทย กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเซ็นสัญญารับงานใหม่ระหว่างกระทรวงกลาโหม มูลค่าเบื้องต้นราว 400 ล้านบาท ซึ่งจะดันให้งานในมือ (Backlog) ของบริษัทเพิ่มขึ้นเป็น 5,092 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้เป็นรายได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้บริษัทมั่นใจว่ารายได้ปีนี้จะทำได้เกือบ 3,000 ล้านบาท และจะมีกำไรสุทธิที่แข็งแกร่ง จากที่ขาดทุนติดต่อกัน2ปี พร้อมคาดว่าปี 2562 ผลการดำเนินงานจะเติบโตอย่างก้าวกระโดด เนื่องด้วยBacklog ส่วนใหญ่ จะรับรู้ภายในปีหน้า และยังมีงานโครงการอีกจำนวนมากที่เตรียมเข้ารับงาน แต่ยังไม่สามารถให้ข้อมูลได้เนื่องด้วยจำเป็นต้องแจ้งให้ตลาดฯทราบเสียก่อน นอกจากนี้ยังมีการลงทุนอีก 1,000 ล้านบาท เพื่อผุดโปรเจ็กต์ใหม่ หวังดันให้รายได้ประจำเพิ่มขึ้นได้อีกจำนวนมาก
อันดับที่ 5 NWR, ILINK, LOXLEY ชิงงานสายไฟฟ้าใต้ดิน 8.89 พันล้านบาท
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า โดยนายกีรพัฒน์ เจียมเศรษฐ์ รองผู้ว่าการวิชาการและบริหารพัสดุ การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) กล่าวว่า เตรียมเปิดประมูลโครงการเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดินในปีนี้ 2 โครงการมูลค่ารวม 8,899.58 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการรัชดาภิเษก-พระราม9 มูลค่าโครงการ 4,353.13 ล้านบาท ซึ่งเตรียมให้ยื่นเอกสารประกวดราคาในเดือนตุลาคม 61 และโครงการรัชดาภิเษก-อโศก มูลค่าโครงการรวมดอกเบี้ย 4,546.45 ล้านบาท เปิดให้ยื่นเอกสารประกวดราคาในเดือนพฤศจิกายน 61
อย่างไรก็ตามในการประมูลโครงการเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดินนั้น แหล่งข่าวนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ กล่าวว่า ทั้ง 2 โครงการคาดว่าจะได้รับความสนใจจากผู้รับเหมารายเล็กอย่าง NWR ILINK LOXLEY เช่นเดิมที่เคยเข้าประมูลโครงการนี้มาแล้วในเส้นทางอื่น
