ผู้สื่อข่าว”มิติหุ้น”รายงานว่า บมจ. ทีวี ไดเร็ค หรือ TVD โดย นายทรงพล ชัญมาตรกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ขยายการลงทุนครั้งใหญ่เข้าสู่การบริหารช่องทีวีดิจิทัลอย่างเต็มตัว โดยที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัทฯ เมื่อวันที่ 21 กันยายนที่ผ่านมา ได้อนุมัติการเข้าลงทุนถือหุ้น 90.1% ในบริษัท สปริงนิวส์ เทเลวิชั่น จำกัด ในเครือ บมจ. นิวส์ เน็ตเวิร์ค คอร์ปอเรชั่น ซึ่งเป็นผู้ได้รับใบอนุญาต (License) ให้ดำเนินกิจการสถานีโทรทัศน์สปริงนิวส์ ดิจิทัล ช่อง 19 จาก กสทช. โดยขั้นตอนต่อไปจะเรียกประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ เพื่อขออนุมัติต่อที่ประชุม
ทั้งนี้ หลังจากดำเนินการเข้าซื้อหุ้นเป็นที่เรียบร้อย บริษัทฯ มีวิสัยทัศน์ที่จะพัฒนาช่อง 19 ให้เป็นช่องทีวีดิจิทัลที่มีรายการนำเสนอสินค้าต่างๆ ที่หลากหลาย ควบคู่กับนำเสนอรายการข่าวสารที่มีสาระให้แก่ผู้ชม โดยวางแผนเพิ่มการนำเสนอสินค้าที่มีคุณภาพดีและเป็นผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจจากผู้ประกอบการ SMEs ทั่วประเทศ ที่ยังขาดช่องทางเข้าถึงผู้บริโภคเพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำโฮมช้อปปิ้ง พร้อมทั้งช่วยเสริมประสิทธิภาพซึ่งกันและกันกับแผนงานทำการตลาดและกิจกรรมส่งเสริมการขายสินค้าต่างๆ ผ่านช่องทางออนไลน์ เว็บไซต์อี-คอมเมิร์ชและพันธมิตรด้านโซเชียลมีเดียชั้นนำ อาทิ Google, Shopee, Facebook, JD และ Line ที่จะดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศและสามารถกระตุ้นการตัดสินใจซื้อได้อย่างดี
“การที่บริษัทฯ เข้าซื้อหุ้นสปริงนิวส์ เทเลวิชั่น จะเป็นผลดีกับทุกฝ่ายและ win-win-win ด้วยกันทั้งหมด โดย ทีวี ไดเร็ค จะมีความมั่นคงด้านการมีเวลาออกอากาศและต้นทุนการออกอากาศลดลงในระยะยาว ส่วนกลุ่มสปริงนิวส์ก็จะร่วมเป็นพันธมิตรร่วมผลิตรายการข่าวและขยับขึ้นเป็นคอนเทนท์โพรไวเดอร์เต็มรูปแบบ” นายทรงพล กล่าว
นายพงษ์ชัย ชัญมาตรกิจ หัวหน้าสายงานสถานีโทรทัศน์ TVD กล่าวว่า นับตั้งแต่ไตรมาส 2/61 ที่บริษัทฯ ได้ร่วมผลิตรายการกับช่องสปริงนิวส์ถือว่ามีผลตอบรับที่ดี แม้ว่าในช่วงแรกยังคงมีค่าใช้จ่ายเช่าเวลาและต้นทุนในการร่วมผลิตรายการสูงกว่าผลกำไรจากการขายสินค้า อย่างไรก็ตามนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาหลังจากที่ปรับรูปแบบรายการเสนอขายสินค้าให้มีความน่าสนใจ เพิ่มความหลากหลายในการนำเสนอสินค้า พร้อมทั้งมุ่งเน้นการควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ ปัจจุบันสามารถเพิ่มยอดขายและสร้างผลกำไรจากการขายสินค้าผ่านช่องสปริงนิวส์ได้เป็นที่น่าพอใจ
ส่วนแนวทางการบริหารช่องสปริงนิวส์หลังจากดำเนินการซื้อหุ้นเป็นที่เรียบร้อย ได้วางแผนออกอากาศรายการโฮมช้อปปิ้งตามข้อกำหนดของ กสทช. โดยจะมีการผลิตรายการข่าวและสาระไม่น้อยกว่า 50% ของเวลาออกอากาศทั้งหมด เพื่อให้มีครบทั้งเนื้อหาสาระในเชิงข่าวและรายการประเภทอื่นๆ และหลังจากนี้จะให้สปริงนิวส์ดำเนินการผลิตรายการข่าวป้อนให้แก่สถานีตามเดิม เนื่องจากบริษัทฯ ไม่มีความชำนาญทางด้านนี้
“บริษัทฯ ตั้งเป้าว่าจะมีรายได้จากการขายสินค้าผ่านช่อง 19 ในปีนี้คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 5% ของเป้าหมายยอดขายรวม 3,990 ล้านบาท โดยมองว่าในปัจจุบันยังคงมีผู้บริโภคที่รับชมทีวีดิจิทัลอีกเป็นจำนวนมาก ทำให้การเสนอขายสินค้าทางรายการโฮมช้อปปิ้งมีผลตอบรับที่ดี ดังนั้นการขายสินค้าที่ได้ผลในยุคนี้จึงไม่สามารถพึ่งพาช่องทางทีวี ช่องทางออนไลน์หรือร้านค้า เพียงทางใดช่องทางหนึ่ง แต่ต้องรุกทุกช่องทางไปพร้อมกัน โดยการลงทุนในสปริงนิวส์ เทเลวิชั่นจะช่วยเพิ่มแต้มต่อในการดำเนินธุรกิจและช่วยเสริมประสิทธิภาพกับการเสนอขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์และร้าน TV Direct Showcase ที่มีการขยายสาขามาอย่างต่อเนื่อง” นายพงษ์ชัย กล่าว