มิติหุ้น-GLOW ศึกษาลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำเมียนมา 640 เมกะวัตต์ รอ GPSC สานต่อหลังควบรวมกัน ลุ้นอดทนรอ กพช.มีความชัดเจนเรื่องต่ออายุสัญญา SPP 4 โครงการ 230 เมกะวัตต์ ซุ่มปิดดีลโซลาร์รูฟท็อป 100 เมกะวัตต์
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.โกลว์ พลังงาน หรือ GLOW ผู้ประกอบการโรงไฟฟ้า โดยนายปจงวิช พงษ์ศิวาภัย รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายการเงิน เปิดเผยว่า ความคืบหน้าศึกษาพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำในเมียนมาล่าสุดทางกระทรวงพลังงานเมียนมาได้อนุมัติผลการศึกษาด้านเทคนิคแล้วขนาดกำลังการผลิต 640 เมกะวัตต์
ส่วนขั้นตอนต่อไปรอลงนามในสัญญา (MOU) สิทธิในการพัฒนาโครงการคาดว่าจะสามารถลงนามได้ในปี 2562 เนื่องจากต้องรอการควบรวมกับ บมจ.โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ หรือ GPSC ให้แล้วเสร็จก่อน หลังจากนั้นก็จะดำเนินการศึกษาการลงทุนว่าโครงการขนาดนี้จะต้องใช้งบลงทุนเท่าไหร่ และราคาค่าไฟฟ้าจะเป็นอย่างไร โดยปกติใช้ระยะเวลาในการศึกษาประมาณ 1 ปีครึ่งถึง 2 ปี
ขณะความคืบหน้าโครงการโซลาร์รูฟท็อป (SPP Private) ที่ลงทุนติดตั้งและผลิตไฟฟ้าบนหลังคาให้กับลูกค้าโดยตรงนั้นอยู่ระหว่างรอตอบรับการซื้อไฟฟ้าจากลูกค้าหลายรายขนาดกำลังการผลิตรวมประมาณ 100 เมกะวัตต์ ซึ่งปัจจุบันตอบรับมากแล้ว 3 รายเป็นโรงงานอุตสาหกรรม 2 รายและโรงแรมในจังหวัดภูเก็ต 1 รายขนาดกำลังการผลิตติดตั้งรวม 2.50 เมกะวัตต์ ซึ่งโครงการโซลาร์รูฟท็อปพวงด้วยแบตเตอร์รี่กักเก็บพลังงานแล้วขายไฟฟ้าให้เอกชนโดยตรงนั้นมีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้นตามความต้องการที่ของลูกค้า และยังสอดคล้องกับแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศ (PDP) อีกด้วย
สำหรับโครงการโรงไฟฟ้า SPP โคเจนเนอเรชั่น หรือพลังงานความร้อนร่วมที่จะหมดอายุสัญญาซื้อขายไฟฟ้าแล้วเตรียมต่ออายุสัญญาในปี 2564 ของ GLOW นั้นมีอยู่ 2 โครงการ โครงการละ 55 เมกะวัตต์ รวม 110 เมกะวัตต์ และอีก 2 โครงการขนาดกำลังการผลิตโครงการละ 60 เมกะวัตต์รวม 120 เมกะวัตต์ที่จะหมดอายุสัญญาปี 2563 โดยปัจจุบันรอความชัดเจนจากคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ในการประชุมในครั้งต่อไป ซึ่งยังไม่ทราบว่าจะมีประชุมเดือนไหน แต่ก่อนหน้านั้นทางกระทรวงพลังงานได้กำหนดไว้ 2 แนวทาง แนวทางแรก คือ อนุมัติให้ต่ออายุสัญญา 25 ปีสำหรับลงทุนโครงการใหม่ แนวทางที่ 2 ต่ออายุสัญญา 10 ปีของโรงไฟฟ้าเก่า