สิบปีก่อน 2008 เกิดวิกฤตเศรษฐกิจที่อเมริกา เลยเป็นที่มาของการหั่นดอกเบี้ยจนติดลบ
ดอกเบี้ยติดลบ แปลว่าธนาคารกลางจะคิดดอกเบี้ยจากที่ธนาคารพาณิชย์เอาเงินมาฝากไว้ แทนที่จะให้ดอกเบี้ยเหมือนแต่ก่อน
เป้าหมายคือต้องการกดดันธนาคารพาณิชย์ไม่ให้เก็บเงินเอาไว้กับแบงก์ชาติ ควรจะปล่อยกู้ให้กับลูกค้าเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ซึมเซามายาวนาน
เงินมันก็ไหลจากที่ผลตอบแทนต่ำ ไปหาที่ผลตอบแทนสูง
จาก 2008-2018 ก็ 10 ปีพอดี ตลาดหุ้นบ้านเราก็เลยได้ผลประโยชน์ตรงนี้ ขึ้นมาตลอด
ทีนี้ปัญหามันมาเกิดตรงอเมริกาฟื้น เงินก็เลยจะไหลกลับ
เราเลยต้องมาชั่งน้ำหนักว่าระหว่างความแข็งแกร่งภายในประเทศ ความชัดเจนเรื่องการเลือกตั้งที่กำลังจะมา มันจะทำให้ SET ขึ้นไปทำ High ได้อีกหรือไม่
ครึ่งปีแรก ผมก็อ่านตลาดว่าทำได้ กรอบสำคัญ 70 จุด
1650-1700 ควรเป็นแนวฐานสำคัญที่ตลาดจะฟื้นตัว ปรากฏว่ามัน Failed ก็โดนตลาดฟาดเอาจุกไปเหมือนกัน
…………………………………………………………………..
ทีนี้ครึ่งปีหลัง เราก็ฟื้นมาจากกรอบนี้ล่ะครับ ในภาพคือ ZONE A 1650-1730
และตอนนี้เราทะลุไป ZONE B ได้แล้ว อยู่ในกรอบ 50 จุด 1730-1780 โดยประมาณ เราจะไปต่อได้ไหม นั่นคือโจทย์ของเราตอนนี้
ทางเทคนิค เราต้องการดัชนีปิดเหนือ 1777 ในระยะสั้นเพื่อไปต่อ และหากอ่านด้วย TD SEQUENTIAL ก็ต้องปิดเหนือ TDST@1790 ให้ได้ จะเป็นการยืนยันการขึ้น
เอา “The Six Stage Of Business Cycle” ของ Martin J.Pring มาช่วยดู หากมันเป็นรอบที่ตลาดหุ้น ควรจะ PEAK ก่อน FAILURE ก็ควรจะได้เห็นกลุ่ม Commodity เช่น น้ำมัน พาตลาดขึ้นมา ก็เหมือนจะเห็นน้ำมันขึ้นมาอยู่นะครับช่วงนี้
ตอนนี้เราก็ยังเป็น sideway นั่นล่ะครับ 1730-1780 วนๆอยู่ๆในกรอบนี้ ถ้าไม่ตกกลับลงมาในกรอบล่างหรือ ZONE A ก็ยังดูดี
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ต้องระวังคือ
SET@DAY เรากำลังจะเจอสัญญาณเตือน Market Top นับ #13
SET@QUARTER เรากำลังจะเจอสัญญาณเตือน Market Top นับ #9
ยังไงก็มองทางเผื่อขึ้น-ลงไว้แล้วกันนะครับ
เอาบทเรียนจากปีแรกมาเตือนใจ มีดำ-มีขาว มีขึ้น-มีลง มีกำไร-มีขาดทุน ใครก็หนีไม่พ้น
ครึ่งปีหลังเลยเป็นยมทูตดำ-ขาวแทนมังกร ไว้สอนใจ ให้นะวัง
www.mitihoon.com