อันดับที่ 1 AOT ยันการประมูลออกแบบอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 ทำตามกติกา เร่งขออนุมัติงบ 7 หมื่นลบ. ก่อสร้าง 3 โครงการใหญ่
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ท่าอากาศยานไทย หรือ AOT โดยนายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ยืนยันว่า การประมูลออกแบบก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่2 (Terminal 2) นั้น AOT ดำเนินตามขั้นตอนขบวนการประมูล กฏกติกาที่กำหนดไว้รวมถึงดำเนินตามเงื่อนไขการประมูล (TOR) โดยไม่ได้มีการแก้ไขแบบเนื่องจากว่ายังอยู่ในขั้นตอนของการวางคอนเซ็ตป์ซึ่งยังไม่ได้ดำเนินการออกแบบ ส่วนความคืบหน้าการประมูลพื้นที่ปลอดภาษีอากร (Duty fee) สุวรรณภูมิเฟส 2 และในพื้นที่จะหมดอายุสัญญาในปี 63 คาดว่า TOR แล้วเสร็จและเปิดประมูล ได้ในเดือน ต.ค.นี้ โดยขณะนี้รอผลการประชุมคณะอนุกฎหมายในต้นเดือน ต.ค.นี้เพื่อจะพิจารณา ประเด็นเกี่ยวกับข้อกฎหมาย ข้อพิพาทต่างๆ รวมถึงเทคนิค และประเด็นหมิ่นเหม่ ต่อข้อกฎหมาย ก่อนที่จะอนุมัติและเซ็นสัญากับกลุ่มดวงฤทธิ์ บุนนาค ซึ่งเป็นผู้ชนะการออกแบบอาคารผู้โดยสาร หลังที่ 2 หลังจากมีข้อครหาการคัดเลือกผู้ออกแบบรายนี้
อันดับที่ 2 MFEC ผลงานปีนี้ถดถอย หลังโหมลงทุนเสริมแกร่งในอนาคต ชี้ Q4/61 บุ๊คกำไรขาย “พระอินทร์ ฟินเทค” ทันที
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.เอ็ม เอฟ อี ซี หรือMFEC โดย นายศิริวัฒน์ วงศ์จารุกร ประธานกรรมการบริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ เผยว่า บริษัทฯยอมรับ รายได้และกำไรสุทธิปีนี้จะต่ำกว่าปีก่อน เนื่องด้วยเป็นปีแห่งการสร้างฐานธุรกิจผ่านการลงทุนต่างๆ รวมถึงปรับโครงสร้างการดำเนินงานภายในเพื่อให้มีประสิทธิภาพในการรับงานมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังคาดว่าภายหลังจากการเลือกตั้งในปีหน้าการลงทุนระบบซอฟแวร์ต่างๆ ของทั้งภาครัฐและเอกชนจะสูงขึ้นเป็นอย่างมาก และบริษัทมีความพร้อมในระดับสูงที่จะเข้ารับงานหรือเสนอราคาได้ทันที พร้อมกันนี้ บริษัทอยู่ระหว่างเจรจากับผู้ประกอบการสตาร์ทอัพจำนวนหลายราย เพื่อต้องหารเช้าลงทุนหากธุรกิจสามารถสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ธุรกิจได้ในอนาคต จากปัจจุบันมีการลงทุนในกลุ่มสตาร์ทอัพแล้ว 7-8 ราย และสามารถสร้างการเติบโตให้แก่ธุรกิจบริษัทได้เป็นอย่างดี
อันดับที่ 3 “เจ เวนเจอร์” เตรียมตัวเทรด MAI ปี 64 จ่อดขาย JFIN Coin รอบ 2 อีก 200 ล้านโทเคน
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บริษัท เจ เวนเจอร์ส จำกัด หรือ JVC โดย นายธนวัฒน์ เลิศวัฒนารักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เผยว่า บริษัทได้เข้าลงทุนในบริษัท พระอินทร์ ฟินเทค จำกัด โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนา Payment Gateway Solution ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของระบบ JFIN Decentralized Digital Lending Platform (JFIN DDLP) ของบริษัท และเป็นแผนการดำเนินงานภายใต้ White Paper ของโครงการ J Fin Coin ที่จะนำเงินระดมทุนเข้ามาพัฒนาระบบดังกล่าว โดยบริษัทฯ เตรียมเปิดตัว Digital Lending Platform (DLP) ภายใต้แบรนด์ “ป๋า” คาดว่าจะเริ่มเปิดให้บริการในเดือนต.ค.61 และอยู่ระหว่างพัฒนาต่อเนื่องเป็น Decentralized Digital Lending Platform (DDLP) ที่นำเอา Block chain เทคโนโลยีเข้ามาใช้ โดยตั้งเป้าแล้วเสร็จในเดือนต.ค.62 ตามแผนเดิมที่วางไว้ พร้อมกันนี้ บริษัทฯ มีแผนเสนอขาย JFin Coin จำนวน 200 ล้านโทเคน ในปี 63 เพื่อระดมทุนต่อยอดธุรกิจ และคาดจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ภายในปี 2564
อันดับที่ 4 ESTAR คงเป้ารายได้ปีนี้ 2 พันลบ. ตั้งงบซื้อที่ดินปี 62 ราว 1-2 พันลบ.
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.อีสเทิร์นสตาร์ เรียลเอสเตท หรือ ESTAR โดย ดร.ต่อศักดิ์ เลิศศรีสกุลรัตน์ กรรมการผู้จัดการ เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานช่วงครึ่งหลังปี 61 คาดเติบโตดีขึ้น หลังช่วง 8 เดือนแรก บริษัทสามารถทำยอดขายแตะระดับ 2,000 ล้านบาท เติบโต 43% จากเป้ายอดขายทั้งปี 61 ที่ตั้งไว้ 1,600 ล้านบาท และคงเป้ารายได้ปีนี้ไว้ที่ 2,000 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทตั้งงบซื้อที่ดินปี 62 ราว 1,000 – 2,000 ล้านบาท และมีแผนจะเปิดโครงการคอนโดมิเนียมอีกราว 3-4 โครงการ ซึ่งจะเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าระดับกลาง-บน โดยจะมีราคาขายต่อยูนิตไม่ต่ำกว่า 3 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันมีที่ดินรองรับการเปิดโครงการแล้ว 3 แปลง และมี 1 แปลงที่กำลังจะมีการเซ็นสัญญา โดยเป็นทำเลย่านสุขุมวิท ที่อยู่ไม่ไกลจากรถไฟฟ้า และตั้งเป้าในปีถัดไปจะทยอยเปิดโครงการให้ได้ปีละ 3-4 โครงการ เพื่อหนุนรายได้ของบริษัทให้เติบโตต่อเนื่อง
อันดับที่ 5 COMAN วิ่งบวกทะลุ 40% ใน 5 วันทำการ บิ๊กบอส “สมบูรณ์” ลั่นราคายังต่ำกว่าพื้นฐาน
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานความเคลื่อนไหวราคาหุ้น บมจ. โคแมนชี่ อินเตอร์เนชั่นแนล หรือ COMAN พบว่า ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในระยะ 5 วันทำการ จากเมื่อวันที่ 19 ก.ย.61 ราคาปิดตลาดฯ ที่ 3.36 บาท ล่าสุด วันนี้ (26 ก.ย.61) ราคาสูงสุด 4.72 บาท เพิ่มขึ้น 1.36% ขณะที่มูลค่าซื้อขายหนาแน่นต่อเนื่อง หรือรวม 5 วัน ราคาปรับเพิ่มขึ้นกว่า 40%นอกจากนี้ ช่วงครึ่งปีหลังยังเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ ที่จะเห็นการเติบโตอย่างชัดเจนของผลการดำเนินงาน รวมถึงประเด็นการเลือกตั้งที่มีกำหนดการที่ชัดเจน จึงทำให้การลงทุนของภาครัฐและอกชนมีความเชื่อมั่นมากยิ่งขึ้น โดยประเด็นดังกล่าว เชื่อว่าเป็นตัวผลักดันให้ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นจากฐานที่ต่ำ ซึ่งราคาในขณะนี้ยังมองว่ายังราคาที่ต่ำกว่าพื้นฐานของบริษัทฯ จาก PE ที่อยู่ระดับต่ำเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมเดียวกัน