“พงศธร ทวีสิน” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ปตท.สผ. เผยวิสัยทัศน์ในการเข้ารับตำแหน่งใหม่ มุ่งเน้นการขับเคลื่อนองค์กรด้วยแนวทาง Transformation เพื่อรับกับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมปิโตรเลียม (Disruptive Technology) โดยตั้งเป้าเพิ่มปริมาณสำรองปิโตรเลียมอย่างต่อเนื่อง และเดินหน้าลงทุนในธุรกิจใหม่ ๆ เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน
นายพงศธร เปิดเผยภายหลังเข้ารับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. ในวันที่ 1 ตุลาคม 2561 ว่ามีเป้าหมายจะผลักดันให้ ปตท.สผ. มีการปรับตัวเพื่อรับกับการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจ โดยการนำเอาเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ และการปรับเปลี่ยนโครงสร้างองค์กรและกระบวนการทำงาน เพื่อให้เกิดความคล่องตัว และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยในส่วนธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัทนั้น ตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มปริมาณสำรองปิโตรเลียมอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าเป็นผู้ชนะการประมูลแหล่งก๊าซธรรมชาติที่กำลังจะหมดอายุในอ่าวไทยทั้งแหล่งบงกชและเอราวัณ รวมทั้งการแสวงหาโอกาสการเข้าซื้อกิจการ (M&A) ในแหล่งน้ำมันและก๊าซฯ ในภูมิภาคตะวันออกกลาง และเร่งรัดการสำรวจแหล่งปิโตรเลียมที่มีศักยภาพเพื่อสร้างความมั่นคงและการเติบโตอย่างยั่งยืน
ด้านการเตรียมความพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีเพื่อมองหาธุรกิจใหม่นั้น ปตท.สผ. จะเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและสร้างการเติบโตในอนาคต โดยจะให้ความสำคัญกับธุรกิจก๊าซธรรมชาติครบวงจร (Gas Value Chain) เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม เช่น ธุรกิจโรงไฟฟ้า Gas to Power โดยมุ่งเน้นที่ประเทศเมียนมา และจะผลักดันให้สามารถดำเนินการได้อย่างเป็นรูปธรรมในเวลาอันใกล้นี้ นอกจากนั้น ยังได้จัดตั้งบริษัท อีพี-เทค เวนเจอร์ส โฮลดิ้ง จำกัด เพื่อรองรับการลงทุนธุรกิจใหม่ในอนาคต เช่น เทคโนโลยีหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์ การซ่อมบำรุงเชิงพยากรณ์ รวมทั้งการมองหาโอกาสลงทุนในพลังงานทางเลือก
“ธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมยังคงต้องเผชิญกับความท้าทายหลายประการในช่วง 2-3 ปีนี้ โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีที่รวดเร็ว ผมยังเชื่อมั่นว่าการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมจะยังคงเป็นธุรกิจหลักที่สร้างรายได้ให้กับบริษัท แต่ขณะเดียวกัน ต้องให้ความสำคัญกับธุรกิจใหม่ที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจปัจจุบันของเราเพื่อปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป เชื่อว่าแนวคิดและกลยุทธ์ที่ผมได้กล่าวมานี้ จะเป็นกำลังสำคัญให้ ปตท.สผ. เติบโตต่อไปในอนาคตได้อย่างยั่งยืน” นายพงศธร กล่าว
ทั้งนี้ นายพงศธรยังมุ่งมั่นที่จะนำหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีมาใช้ในการบริหารกิจการของ ปตท.สผ. โดยจะทบทวนในเชิงการบริหารจัดการให้มีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น แต่ยังคงอยู่ในกรอบการกำกับดูแลกิจการที่ดี มีความโปร่งใส และตรวจสอบได้ในทุกขั้นตอน เพื่อผลักดันให้ ปตท.สผ. เติบโตอย่างยั่งยืน สง่างาม และเป็นองค์กรต้นแบบด้านการกำกับดูแลกิจการที่ดี