นักวิเคราะห์ที่ติดตามความคืบหน้าของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน เริ่มเห็นสัญญาณหลายอย่างบ่งชี้ในทางเลวร้ายลง ( NEGATIVE DEVELOPMENT ) ระหว่าง 2 ชาติยักษ์ใหญ่มหาอำนาจของโลก เบอร์ 1 สหรัฐฯ กับเบอร์ 2 จีน ส่อแววจะขยายตัวบานปลายออกไปเรื่อยๆ จนอาจกลายเป็นสงครามเต็มรูปแบบในทุกด้าน ไม่ใช่เฉพาะด้านการค้าอีกต่อไป
สหรัฐฯ โดยประธานาธิบดี Donald Trump ได้ยกระดับการบีบบคั้นจีนจากเรื่องการค้า โดยอ้างการลดยอดขาดดุลการค้ากับจีน ต้องการลงลงมาจากปัจจุบันที่ขาดดุลอยู่สูงถึงปีละ 400,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ลงมาให้เหลือครึ่งหนึ่ง หรือน้อยกว่านั้น ได้ขยายตัวไปยังเรื่องอื่นเรื่อยๆ
อาทิ การกีดกันจีนไม่ให้เข้ามาซื้อเทคโนโลยี HiTech ในอุตสาหกรรมต่างๆของสหรัฐฯ เช่น ด้าน Aero Speace , IT, Robotic, Auto Drive, AI, Hi Speed Internet, Blockchain, Cryptocurrency, Bio-Technology, Geno Technology, Hi Tech Energy, Oil and Gas รวมทั้งห้ามจีนเข้ามาซื้อกิจการบริษัท Hi Tech ต่างๆ ของสหรัฐฯ ด้วย
ยิ่งกว่านั้น Trump ร่วมกับสภาความมั่นคงสหรัฐ CIA, NSA, FBI, PENTAGON กำลังเดินนโยบายสกัดกั้นจีนทุกวิถีทางในทุกด้าน โดยเฉพาะด้านการทหารและความมั่นคง เพื่อ BLOCK จีนไม่ให้เพิ่มขีดความสามารถและศักยภาพด้านการทหารและเทคโนโลยีใหม่ เพื่อป้องกันไม่ให้จีนแซงสหรัฐฯ ขึ้นมาเทียบชั้นเบอร์ 1 ในทุกด้าน
การต่อสู้และปิดกั้นบีบคั้นจีนในทุกด้าน จะเพิ่มความเข้มข้นขึ้นอีกมาก รวมทั้งความพยายามจะบั่นทอนความเข้มแข็งทางทหาร, ความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจของจีน เพื่อไม่ให้จีนขึ้นมาแข่งและเทียบชั้นสหรัฐฯ ในอีก 10-20 ปีข้างหน้า
Trump กำลังจับมือกับอังกฤษ, ฝรั่งเศส, เยอรมัน, อิตาลี, สเปน, แคนาดา, ออสเตรเลีย เพื่อบีบจีน และพันธมิตรจีน คือ รัสเซีย, อิหร่าน, เกาหลีเหนือ ให้ต้องยอมจำนนต่อยุทธศาสตร์ของชาติตะวันตก ภายใต้การนำของ Trump
การต่อสู้กันจะขยายตัวออกไปเรื่อยๆ ทั้งในตลาดการค้า, ตลาดการเงิน, ตลาดทุน, ตลาดเงินตรา, ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ การขึ้นดอกเบี้ยของ FED อีก 2-3 ครั้ง ในปีหน้าจะกดดันให้เงินทุนไหลออกจากจีนและประเทศ EM ต่อไปอาจเกิดวิกฤตเศรษฐกิจในอีกหลายประเทศ เพิ่มขึ้นจากตุรกี, อาร์เจนติน่า, อินโดนีเซีย, แอฟริกาใต้, อิหร่าน, ปากีสถาน, บังกลาเทศ, เม็กซิโก, บราซิล ฯลฯ จะกดดันตลาดหุ้น EM ให้ร่วงลงต่อไปอีก 1-2 ปีข้างหน้าอย่างเลี่ยงไม่ได้
www.mitihoon.com
