ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.บีจี คอนเทนเนอร์ กล๊าส หรือ BGC โดยนายศิลปรัตน์ วัฒนเกษตร กรรมการผู้จัดการ เปิดเผยว่า บริษัทได้เสนอขายหุ้น IPO จำนวน 194,444,000 หุ้น หรือคิดเป็น 28% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทังหมดของบริษัท มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 5 บาท โดย บล.กสิกรไทย กำหนดราคา IPO ไว้ที่ 10.20 บาทต่อหุ้น ถือเป็นระดับราคาที่เหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐานของบริษัท
โดยจะเปิดให้จองซื้อหุ้นในวันที่ 8-10 ต.ค.2561 คาดเข้าซื้อขายได้ในวันที่ 18 ต.ค.2561 โดยบริษัทจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ไปชำระเงินกู้ยืม ขยายโรงงานผลิตบรรจุภัณฑ์แก้วแห่งใหม่ในจังหวัดราชบุรีและใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ
ขณะที่บริษัทคาดกำไรสุทธิของปีนี้อยู่ที่ 5% ซึ่งเติบโตกว่าปีก่อนที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 2% โดยในครึ่งปีแรกบริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 270.1 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้น 122.0 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงปีก่อนที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 121.7 ล้านบาท เนื่องจากราคาเศษแก้วที่เริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ รวมถึงบริษัทจะเน้นขายสินค้าที่ได้กำไรสูง อาทิ เช่น ขวดแยม ขวดรังนก เป็นต้น
ขณะเดียวกัน บริษัทคาดรายได้รวมปีนี้มีอัตราการเติบโตไกล้เคียงกับปีก่อน ซึ่งมีรายได้รวมอยู่ที่ 11,221.8 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทได้ทำการย้ายโรงงานผลิตบรรจุภัณฑ์แก้วและเตาหลอมแก้ว จากจังหวัดระยอง ที่หมดอายุการใช้งานแล้วมาอยู่ที่โรงงานในจังหวัดราชบุรี ซึ่งอยู่ระหว่างทำการก่อสร้าง จึงทำให้บริษัทมีกำลังการผลิตที่ทำได้ไกล้เคียงเดิม
นอกจากนี้ ตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ในปี 2562 เติบโตเกือบ 10% จากการรับรู้รายได้ของโรงงานแห่งใหม่ที่จังหวัดราชบุรีได้เต็มปี ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินโครงการก่อสร้างโรงงานผลิตบรรจุภัณฑ์แก้วและเตาหลอมแก้วแห่งใหม่ที่จังหวัดราชบุรีเพิ่มอีก 1 เตา โดยใช้เงินลงทุนเบื้องต้นประมาณ 2,500 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ได้ภายในไตรมาส 4 ของปีนี้ ซึ่งจะมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีก 400 ตันต่อวัน รวมเป็นประมาณ 3,495 ตันต่อวัน
ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าสัดส่วนรายได้การส่งออกผลิตภัณฑ์สู่ต่างประเทศในกลุ่ม CLMV รวมถึงกลุ่มประเทศยุโรป อีก 5 ปีไว้ที่ 20% จากปัจจุบันอยู่ที่ 7-8%
