“วี.แอล.เอ็นเตอร์ไพรส์” ยื่นไฟลิ่ง ก.ล.ต. เสนอขายไอพีโอ 280 ล้านหุ้น เล็งระดมทุนขยายกองเรือ และแสวงหาโอกาสทางธุรกิจ
นายเอกจักร บัวหภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แคปปิตอล วัน พาร์ทเนอร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของบริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของบริษัท วี.แอล.เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) หรือ VL เปิดเผยว่า บริษัทได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ของบริษัท วี.แอล.เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) หรือ VL ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. ไปแล้ว เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2561 ที่ผ่านมา เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก หรือIPO จำนวน 280 ล้านหุ้น แบ่งเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายโดย VL จำนวน 200 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายโดยผู้ถือหุ้นเดิม คือ นางชุติภา กลิ่นสุวรรณ จำนวน 80 ล้านหุ้น ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 25 และร้อยละ 10 ตามลำดับ ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนในครั้งนี้ และจะเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai)
ขณะที่แผนการระดมทุนในการเสนอขายหุ้นไอพีโอในครั้งนี้ เพื่อลงทุนขยายกองเรือ โดยการลงทุนซื้อเรือดังกล่าวคาดว่าจะเป็นการต่อเรือใหม่ หรือการซื้อเรือมือสองเพื่อนำมาให้บริการ อย่างไรก็ตามยังต้องพิจารณาสถานการณ์ และสภาวะตลาดในขณะนั้นควบคู่ไปด้วย
“โดย VL มีจุดเด่นด้านกองเรือน้ำมันที่มีน้ำหนักบรรทุก 35,081 เดทเวทตัน (DWT) ซึ่งติดอันดับ 4 ของประเทศ ประกอบกับมีอายุกองเรือเฉลี่ยเพียง 16.12 ปี และนอกจากแผนการระดมทุนแล้ว บริษัทยังมองในการขยายการลงทุนในเส้นทางอื่นเพิ่มเติม แต่จะต้องพิจารณาสถานการณ์และสภาวะเศรษฐกิจทั้ง ในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งปัจจัยความพร้อมของบริษัท ประกอบกับพฤติกรรมของผู้อุปโภคในขณะนั้น และจะต้องลงทุนพิจารณาจากผลตอบแทนการลงทุนควบคู่ไปด้วย”นายเอกจักร กล่าว
นางชุติภา กลิ่นสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วี.แอล.เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) หรือ VL กล่าวอีกว่า บริษัทเป็นผู้ประกอบธุรกิจประกอบธุรกิจให้บริการขนส่ง ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม และผลิตภัณฑ์เคมีภัณฑ์ โดยเป็นการขนส่งทางทะเล ซึ่งสินค้าหลักแบ่งออกเป็น 5 ประเภท ได้แก่ น้ำมันดิบ น้ำมันเตา น้ำมันใส น้ำมันหล่อลื่น และน้ำมันปาล์ม
อีกทั้งบริษัทมีการให้บริการขนส่งสินค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศให้กับบริษัทคู่ค้าที่ทำธุรกิจผู้ค้าน้ำมันเป็นหลัก โดยในปัจจุบัน บริษัทมีเรือเพื่อใช้ในการประกอบธุรกิจทั้งหมด 12 ลำ ซึ่งกองเรือมีอายุเฉลี่ยประมาณ 16 ปี มีน้ำหนักบรรทุกเรือรวม 35,081เดทเวทตัน (DWT) และมีความสามารถในการบรรจุน้ำมันเพื่อขนส่งรวมอยู่ที่ 36,036 ลูกบาศก์เมตร
สำหรับการขนส่งผลิตภัณฑ์ในประเทศจะเป็นการขนส่งผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมให้กับคู่ค้าที่ทำธุรกิจผู้ค้าน้ำมันรายใหญ่ เช่น บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน), บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท เชฟรอน (ไทย) จำกัด เป็นต้น