อันดับที่ 1 BCP ผลงาน Q3/61 โตแกร่ง ค่าการกลั่นดี แถมมีกำไรสต๊อกน้ำมัน
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น หรือ BCP ผู้ประกอบการค้าปลีกน้ำมันและโรงกลั่น โดยนายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ เปิดเผยว่า แนวโน้มผลดำเนินงานไตรมาส 3/61 คาดว่าจะเติบโตมากกว่าไตรมาส 2/61 เนื่องจากค่าการกลั่นอยู่ในระดับ 8 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันเฉลี่ยในระดับ 80 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ส่งผลให้มีกำไรจากสต๊อกน้ำมัน และหากสหรัฐอเมริกาคว่ำบาตอิหร่านร้อยเปอร์เซ็นจะส่งผลให้ปริมาณน้ำมันดิบของอิหร่านหายไป 4 ล้านบาร์เรลต่อวัน มีโอกาสที่ราคาน้ำมันดิบดูไบขึ้นไปถึงระดับ 90-100 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล อย่างไรก็ตาม บริษัทจะพยายามรักษาผลการดำเนินงานทั้งปี 61 ให้เติบโตใกล้เคียงกับปี 60 ที่มีรายได้รวม 175,449 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 5,778 ล้านบาท สำหรับการนำบริษัท บีบีจีไอ จำกัด (BBGI) ซึ่งเป็นบริษัทที่ควบรวมระหว่างธุรกิจชีวภาพของบางจากฯ และธุรกิจเอทานอลของ บมจ.น้ำตาลของแกน หรือ KSL โดยบางจากฯ ถือหุ้นสัดส่วน 60% และ KSL ถือหุ้น 40% จะพิจารณานำเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยต้นปี 62 เนื่องจากต้องรอดูสภาวะตลาดที่เหมาะสม
อันดับที่ 2 VGI งบQ2/62-63 โตแรง เริ่มบุ๊คกำไรจากKerry ลั่นผลงานทั้งปีโตโดด
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ. วี จี ไอ โกลบอล มีเดีย หรือ VGI โดย นางจิตเกษม หมู่มิ่ง ผู้อำนวยการใหญ่สายการเงิน เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 2/62-63(สิ้นสุดก.ค.-ก.ย.61 ) จะเติบโตกว่าไตรมาสก่อนและเติบโตได้กว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน จากที่ได้รับส่วนแบ่งกำไรตามสัดส่วนเข้าถือหุ้น 23% ใน Kerry Express Thailand Co Ltd พร้อมยังมั่นใจว่าผลการดำเนินงานทั้งปีจะเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด ด้านนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ ระบุว่า รายได้ของ VGI ในปีงบการเงิน62-63 จะยังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยคาดรายได้เติบโต 15.5% จากการเติบโตของรายได้บนบริษัท MACO ที่มีการเข้าซื้อบริษัท Trans.Ad Solutions รวมไปถึงการขยายสื่อโฆษณาบนบีทีเอสและอาคารสำนักงาน ยิ่งไปกว่านั้น บริษัทจะเริ่มรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากการเข้าถือหุ้น 23% ในบริษัท Kerry เข้ามาอีกด้วย โดยเราคาดว่า Kerry จะมีกำไรในปีนี้ราว 1,220 ล้านบาท ทำให้ VGI สามารถรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจำนวน 187 ล้านบาท ในอีก 8 เดือนที่เหลือของปีงบการเงินนี้ โดยสรุปแล้ว ด้วยปัจจัยบวกทั้งหมดที่จะทำให้บริษัทมีกำไรปกติเติบโตสูงถึง 45% YoY เป็น 1,197 ล้านบาท สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์
อันดับที่ 3 NYT ไฮซีซั่นดันกำไรQ3นิวไฮ-ผนึกพันธมิตรรุกท่าเรือข้ามชาติ
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.นามยง เทอร์มินัล หรือ NYT ผู้นำด้านบริการท่าเทียบเรือจำนวน 2 ท่า (A5 & C0) ที่ได้สัมปทานท่าเรือเพื่อการส่งออกและนำเข้ารถยนต์ โดย “แหล่งข่าววงการอุตสาหกรรม” เผยว่า แนวโน้มผลงานช่วงครึ่งปีหลัง จะเติบโตโดดเด่น เพราะเริ่มเข้าสู่ช่วงไฮซีซันของธุรกิจ โดย “ธุรกิจบริการท่าเทียบเรือ” ในปี 61 บริเวณท่าเทียบเรือ A5 จะได้รับผลบวกจากยอดส่งออกรถยนต์เติบโตแตะ 1.2 ล้านคันต่อปี จากปีก่อนที่ 1.14 ล้านคันต่อปี เพราะได้รับแรงหนุนจากความต้องการรถยนต์ในประเทศแถบตะวันออกกลางและทวีปอเมริกาใต้เพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น, ผู้ผลิตรถยนต์ในไทยมีโมเดลรถยนต์ใหม่ๆออกมา ,การส่งออกไปยังออสเตรเลียโตสูงมาก หลังออสเตรเลียประกาศปิดโรงงานผลิตรถยนต์ภายในประเทศและหันมานำเข้าแทน และการที่ NYT มีมาร์เก็ตแชร์กว่า 80% ทำให้ล่าสุดท่าเทียบเรือ A5 มีอัตราการใช้พื้นที่เพิ่มขึ้นเป็นกว่า 65% ดังนั้นทั้งปี 61 คงประมาณการรายได้และผลประกอบการจากยอดขนส่งรถยนต์ที่ 1.2 ล้านคัน และ 1.3 ล้านคันในปี 61-62 ซึ่งมีอัตรากำไรที่ 44% และ 44.5% ตามลำดับ และมี SG&A ที่ 12.5% และ 11% โดยทั้งปี 62 จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 25% จากปีก่อน จาการถือหุ้น 49% ในท่าเรือ C0 จะเริ่มรับรู้ใน มี.ค.62 และจากความเป็นผู้นำในกลุ่ม (ส่วนแบ่งการตลาด 80% ในท่าเรือ Ro/Ro) มีโอกาสสูงที่จะได้ต่อสัญญาสัมปทาน (หมดอายุใน 8 ปี) และมีการกระจายรายได้ที่สูง แนะนำ “ซื้อ” เป้าหมาย 6.70 บาท
อันดับที่ 4 L&E ผลงานจ่อทำนิวเรคคอร์ด ออเดอร์ล็อตใหญ่จากตปท.จ่อวิ่งเข้าหาเพียบ
ผู้สื่อข่าว”มิติหุ้น”รายงานว่า บมจ.ไลท์ติ้ง แอนด์ อีควิปเมนท์ หรือ L&E โดย นายปกรณ์ บริมาสพร ประธานกรรมการบริหาร เปิดเผยว่า บริษัทคาดรายได้และกำไรสุทธิ ในช่วงครึ่งปีหลังจะเติบโตอย่างก้าวกระโดดจากช่วงครึ่งปีแรกที่มีรายได้ 1,318.93 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 44.60 ล้านบาท ดังนั้นบริษัทจึงมั่นใจว่าผลการดำเนินงานจะทำสถิติสูงสุดใหม่ทั้งในแง่ของรายได้และกำไรสุทธิ ซึ่งเป็นผลมาจากการบริหารต้นทุนที่ดีขึ้นในทุกกระบวนการ อีกทั้งอัตรากำไรจากการขายสินค้ายังอยู่ในะรดับที่เหมาะสม แม้ว่าการแข่งขันในอุตคสาหกรรม จะอยู่ในระดับสูงก็ตาม และยังได้รับโครงการประเภทเทิร์นคีย์ จำนวนมากซึ่งทางบริษัทมีความชำนาญในระดับสูง
อันดับที่ 5 ADVANC แจ้งไม่ร่วมประมูลคลื่น 900 MHz โชว์ความถี่ในมือสูงสุดถึง 120 MHz
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือ ADVANC แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า บริษัทได้ตัดสินใจไม่เข้าร่วมประมูลใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สําหรับกิจการโทรคมนาคมย่าน 900 MHz ตามที่ประกาศโดยคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ที่มีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 20 ตุลาคม 2561โดยบริษัทได้พิจารณาหลักเกณฑ์และเงื่อนไขรวมถึงราคาของการประมูลในครั้งนี้ ทั้งนี้ปัจจุบันมีการถือครองคลื่นความถี่ที่ได้รับจากกสทช. โดยเฉพาะคลื่นความถี่ 1800 MHz ที่มีแบนด์วิธคลื่นกว้างที่สุดในประเทศรวมกันถึง 40 MHz (20 MHz x 2) และเมื่อรวมกับการที่เป็นพันธมิตรร่วมกับ บมจ.ทีโอที ส่งผลให้ บริษัทมีคลื่นความถี่ในการให้บริการมากถึง 120 MHz (60 MHz x 2)
