ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.เจ มาร์ท หรือ JMART โดยนายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจผลประกอบการในปี 2562 จะมีรายได้และกำไรเติบโตจากปีนี้ โดยมีปัจจัยหนุนจาก การปรับโครงสร้างพื้นฐานของบริษัทในเครือให้มีความแข็งแรงและเติบโตมากขึ้น
ขณะที่บริษัทยังคาดว่าผลประกอบการในไตรมาสที่ 4/2561 จะพลิกกลับมามีกำไรสุทธิ เนื่องจากการเปิดตัวไอโฟนรุ่นใหม่ปลายปีนี้ ที่จะเข้ามากระตุ้นยอดขาย ซึ่งจะช่วยหนุนให้ธุรกิจเข้าสู่ช่วงไฮซีซัน จึงส่งผลให้ผลประกอบการในปีนี้จะเติบโตไกล้เคียงกับปีก่อน ที่มีรายได้รวม 13,236.85 ล้านบาท และกำไรสุทธิอยู่ที่ 490.16 ล้านบาท
ส่วนผลประกอบการในไตรมาสที่ 3/2561 มีแนวโน้มลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากมีสต๊อกสินค้าคงค้างเยอะ รวมถึงกำลังซื้อชะลอตัว ทำให้มีผลขาดทุนในสต๊อกที่เหลืออยู่เยอะรวมถึงในครึ่งปีแรกบริษัทมีผลขาดทุน 142.72 ล้านบาท จากในช่วงไตรมาสที่ 1/2561 ที่มีการตั้งสำรองเงินทุนจากบริษัทลูก JMT ผู้ประกอบการธุรกิจติดตามหนี้ และบริหารหนี้ด้อยคุณภาพ และ SINGER ผู้ประกอบการเช่าซื้อ
โดยบริษัทจะประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) เพื่อเตรียมประกาศงบไตรมาส 3/2561 ภายในกลางเดือนพ.ย.นี้ และในช่วงสิ้นเดือน ต.ค.จะมีการประชุมบอร์ดอนุมัติแผนการดำเนินงานของปี 2562
นอกจากนี้ บริษัทได้จับมือสถาบันวิทยาการหุ่นยนต์ภาคสนาม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี หรือ ฟีโบ้ (FIBO) เพื่อเซ็นสัญญาร่วมกับบริษัทยักษ์ใหญ่ UBTECH ผู้นำทางการผลิตหุ่นยนต์ระดับโลก ในการนำหุ่นยนต์อัจฉริยะเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการพัฒนาโปรแกรมภาษาไทย ซึ่งคาดว่าจะสามารถนำเข้ามาจำหน่ายได้ในช่วงต้นปี 2562 ซึ่งในขณะนี้ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะกลุ่มโรงพยาบาล โรงภาพยนต์ โรงเรียน และร้านค้ารีเทลต่างๆ
สำหรับยอดขายหุ่นยนต์ในช่วงปีแรก คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 1 หมื่นตัว และใน 5 ปีข้างหน้าจะมียอดขายหุ่นยนต์เฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 1-3 แสนตัวต่อปี คาดว่าการเปิดจำหน่ายหุ่นยนต์จะให้มาร์จิ้นเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 30-40%
ปัจจุบันบริษัทมีสาขาที่เปิดให้บริการแล้วรวม 206 สาขา โดยในช่วงที่เหลือของปี 2561 จะดำเนินการเปิดอีก 10 สาขา โดยใช้งบลงทุนเฉลี่ย 2 ล้านบาทต่อสาขา จะส่งผลให้ภายในสิ้นปีนี้ จะมีสาขาที่เปิดให้บริการรวม 216 สาขา
www.mitihoon.com