สมคิดสั่ง ปตท.หารือกระทรวงพลังงานหามาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย รองรับผลกระทบราคาน้ำมันแพง

103

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า นายสมคิด  จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ให้ บมจ.ปตท.หรือ PTT ร่วมมือกับกระทรวงพลังงาน ติดตามทิศทางราคาน้ำมัน แล้วหามาตรการมาช่วยเหลือกลุ่มผู้ใช้น้ำมันที่ผู้มีรายได้น้อยอย่างเช่น กลุ่มผู้ขับรถแท็กซี่ ประชาชนที่ใช้จักรยานยนต์ ร่วมการหารือกับกระทรวงการคลัง ในการใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐมาใช้ในการพิจารณาในการช่วยเหลือ โดยต้องสรุปให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือน

นอกจากนี้ ยังได้ให้ ปตท.ไปหารือกับธนาคารของรัฐ ดำเนินการจัดตั้งออยล์รีเทล หรือศูนย์กลางซื้อขายสินค้าเกษตร เพื่อนำสินค้าเกษตรมาจำหน่ายในสถานีบริการน้ำมันของ ปตท. โดยใช้ระบบดาต้าเซ็นเตอร์ของธนาคารรัฐเป็นระบบเชื่อมโยงความต้องการสินค้าเกษตร

ด้านายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า กระทรวงพลังงานได้ขอความร่วมมือกับผู้ประกอบการน้ำมันมาตรา7 ศึกษาแนวทางการลดผลกระทบต่อราคาน้ำมันที่มีแนวโน้มจะสูงขึ้นในช่วงปลายปี เพื่อช่วยเหลือกลุ่มประชาชนผู้มีรายได้น้อย เช่น กลุ่มจักรยานยนต์รับจ้างเพื่อไม่ให้ปรับขึ้นค่าโดยสารกับประชาชนทั่วไปด้วยการนำเสนอแนวทางการอุดหนุนราคาแก๊สโซฮอล์ 95 ให้ต่ำกว่าราคาขายปกติทั่วไปลง 3 บาทต่อลิตรโดยคาดว่าจะศึกษาและดำเนินการได้ภายในสิ้นปีนี้

ปัจจุบัน รถมอเตอร์ไซด์รับจ้างที่ลงทะเบียนกับกรมขนส่งทางบกในเขตกรุงเทพฯ 1 แสนคัน ขณะที่ต่างจังหวัดอีกกว่า 1.5   แสนคัน รวมกันประมาณ 2-3 แสนคัน เบื้องต้นจะช่วยกลุ่มนี้ก่อนจากนั้นระยะต่อไปอาจจะช่วยเหลือมอเตอร์ไซค์ที่เป็นผู้มีรายได้น้อยในภาพรวมต่อไป

ด้านนายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลายของ ปตท.  กล่าวว่า โครงการความช่วยเหลือประชาชนเพื่อบรรเทาผลกระทบจากราคาน้ำมันที่มีแนวโน้มขยับตัวสูงขึ้นนั้น เบื้องต้นแบ่งเป็น 2 โครงการ โดยโครงการแรก กระทรวงพลังงาน ได้ประสานกับกลุ่มผู้ค้าน้ำมันมาตรา 7 เพื่อให้ลดราคาน้ำมันให้กับกลุ่มรถจักรยานยนต์รับจ้าง ในอัตรา 3 บาทต่อลิตร โดยใช้เงินกองทุนน้ำมันฯเข้ามาอุดหนุน 2 บาทต่อลิตร และผู้ค้าน้ำมันมาตรา 7อุดหนุนอีก 1 บาทต่อลิตร ซึ่งในส่วนนี้ปตท. ยืนยันว่าพร้อมที่จะเป็นผู้นำเข้าร่วมโครงการดังกล่าวแต่จะต้องหารือในรายละเอียดกับกระทรวงพลังงานต่อไป

ส่วนโครงการที่สอง เป็นแนวทางที่นายสมคิด ได้ให้แนวทางในวันนี้ โดยให้ช่วยลดราคาน้ำมันให้กับกลุ่มผู้มีรายได้น้อย หากราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นกว่าปัจจุบัน  โดยสนับสนุนผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งจะต้องมีการหารือรายละเอียดร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป ซึ่งคาดว่าผลการศึกษาจะแล้วเสร็จใน 3 เดือน