มิติหุ้น – ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB ประกาศผลกำไรสุทธิไตรมาส 3/2561 จำนวน 10,508 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.7% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ในส่วนของรายได้จากการดำเนินงานงวดไตรมาส 3/2561 อยู่ที่ 34,722 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.1% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และเพิ่มขึ้น 1.1% จากไตรมาสก่อนหน้า โดยรายได้ดอกเบี้ยสุทธิมีจำนวน 24,390 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.8% เมื่อเทียบกับปีก่อน เป็นผลมาจากสินเชื่อที่มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่งที่ 5.5% เมื่อเทียบกับปีก่อน และส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวดีขึ้นจากการบริหารจัดการต้นทุนเงินฝากอย่างมีประสิทธิภาพ
ขณะที่รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยมีจำนวน 10,332 ล้านบาท ปรับตัวลดลง 9.5% จากปีก่อน ซึ่งได้รับผลกระทบจากการยกเลิกค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านช่องทางดิจิทัล และการลดลงของรายได้สุทธิจากการรับประกันภัย การลดลงของรายได้ค่าธรรมเนียมส่วนหนึ่งได้รับการชดเชยจากการเพิ่มขึ้นของกำไรจากเงินลงทุน และกำไรจากธุรกรรมเพื่อค้าและปริวรรตเงินตราต่างประเทศ
สำหรับผลประกอบการงวด 9 เดือนแรกของปี 2561 มีกำไรสุทธิ 32,984 ล้านบาท ลดลง 2.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน และมีรายได้รวม 104,443 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งรายได้ยังคงมีการเติบโตได้ดีแม้ว่าจะมีการยกเลิกค่าธรรมเนียมสำหรับธุรกรรมทางการเงินผ่านช่องทางดิจิทัล ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานยังคงอยู่ในระดับสูง จากการลงทุนด้านเทคโนโลยีใหม่และการขยายฐานลูกค้าบนระบบดิจิทัลตามยุทธศาสตร์ของธนาคารภายใต้โครงการ SCB Transformation
ด้านอัตราส่วน NPL ณ สิ้นเดือนกันยายน 2561 อยู่ที่ 2.80% ลดลงเล็กน้อยจาก 2.83% ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2560 ทั้งนี้ ธนาคารได้ตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญจำนวน 5,134 ล้านบาท ในไตรมาส 3/2561 ส่งผลให้อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพปรับเพิ่มขึ้นเป็น 142.5% นอกจากนี้ เงินกองทุนตามกฎหมายของธนาคาร ณ สิ้นเดือนกันยายน 2561 อยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ 17.6%
นายอาทิตย์ นันทวิทยา กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ลูกค้านิยมใช้บริการธนาคารดิจิทัลมากขึ้น โครงการ SCB Transformation และการลงทุนของธนาคารในการสร้างความสามารถใหม่จะมุ่งเน้นสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดและมอบคุณค่าที่น่าสนใจให้กับลูกค้า ด้วยบริการในรูปแบบที่ “ง่ายกว่า รวดเร็วกว่า และถูกกว่า”
โดยที่ผ่านมาธนาคารได้ประสบความสำเร็จในการเปิดตัว SCB EASY และ SCB Business Anywhere ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มดิจิทัลรูปแบบใหม่สำหรับลูกค้าบุคคล และลูกค้าธุรกิจ ความพยายามเหล่านี้และโครงการที่ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลางภายใต้โครงการ Transformation ส่งผลให้ฐานลูกค้าดิจิทัลของธนาคารขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และมีความผูกพันในการใช้บริการผ่านช่องทางดิจิทัลที่สูงขึ้น ท้ายที่สุดแล้ว โครงการ Transformation จะช่วยให้ธนาคารยังคงบทบาทและความสัมพันธ์กับลูกค้า และประสบความสำเร็จภายใต้การเปลี่ยนแปลงของธุรกิจธนาคาร”