มิติหุ้น-หุ้นไทยเดือนก.ย.ปรับตัวขึ้น 2.02% หนุนความนิยมธุรกรรม Block Trade คึกคัก นำทีมโดย 2 หุ้นพลังงาน อ้างอิง PTT และ PTTEP หลังมีมูลค่าซื้อขายสัญญารวมกันสูงกว่า 12% ของมูลค่าสัญญาทั้งหมด
นายบรรณรงค์ พิชญากร กรรมการผู้จัดการ กิจการค้าหลักทรัพย์ บล.บัวหลวง ในฐานะผู้ให้บริการธุรกรรม Block Trade ที่มีส่วนแบ่งการตลาด เมื่อคิดจากมูลค่าการซื้อขาย Block Trade SSF ในเดือนกันยายน 2561 ที่ระดับ 8.54% เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นเดือนกันยายนที่ผ่านมาปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.02% หลังได้รับแรงหนุนจากกลุ่มพลังงานที่ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นมาที่ 80 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ส่งผลให้เกิดการเก็งกำไรระยะสั้นในธุรกรรม Block Trade โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มพลังงานที่มีมูลค่าซื้อขายสัญญา PTT และ PTTEP รวมกันสูงกว่า 12% ของมูลค่าสัญญาทั้งหมด
โดยในเดือนกันยายนที่ผ่านมามีปริมาณการซื้อขายธุรกรรม Block Trade ฟิวเจอร์สอ้างอิงหุ้นรายตัวสูงถึง 5,335,138 สัญญา คิดเป็นประมาณ 4,249 ล้านบาท เฉลี่ยต่อวันคิดเป็น 95.78% ของมูลค่าการซื้อขายรวม Single Stock Futures ทั้งสิ้น 5,526,947 สัญญา คิดเป็นมูลค่าการซื้อขาย (คำนวณจากราคาปิด) ประมาณ 88,716 ล้านบาท เฉลี่ย 4,436 ล้านบาทต่อวัน เพิ่มจากเดือนก่อนหน้าถึง 65.76%
ขณะที่จำนวนสัญญา Block Trade คงค้างรวมปรับตัวเพิ่มขึ้น 25.36% ของจำนวนสัญญาคงค้างวันสุดท้ายของเดือน จาก 2,115,983 สัญญา ในเดือนสิงหาคม เป็น 2,652,501 สัญญา คิดเป็น 86.32% ของสัญญาอนุพันธ์คงค้างรวม สอดคล้องกับสภาวะตลาดที่มีการปรับตัว ทั้งนี้มูลค่าสถานะคงค้างเฉลี่ยรายวันคิดเป็น 28,367 ล้านบาท เพิ่มจากเดือนก่อนหน้า 26,261 ล้านบาท หรือคิดเป็น 8.02% ในเดือนกันยายนที่ผ่านมา มีหุ้นอ้างอิงที่ทำธุรกรรม Block Trade ได้ทั้งหมด 93 หุ้น โดยหุ้นอ้างอิงที่ได้รับความนิยมสูงสุด คือ หุ้นอ้างอิง CPALL ที่มีสัดส่วนการซื้อขายสูง 7.63% เกิดจากการเข้ามา เก็งกำไรประเด็นขายหุ้น MAKRO จำนวน 230 ล้านหุ้น ราคา 44 บาทต่อหุ้น เมื่อปลายเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา และนับจากเดือนเม.ย.เป็นต้นมา มีแต่ปัจจัยเชิงลบ คือ 1.ธนาคารเว้นค่าธรรมเนียมสำหรับการทำธุรกรรมออนไลน์ ทำให้ผู้คนใช้บริการ Counter Service ของ CPALL ลดลง 2. บริษัทเจอกับฝนนอกฤดูในเดือนเม.ย. ทำให้ยอดขายสาขาเดิมชะลอตัวในไตรมาส 2 ปี 2561 3. ค่าแรงขั้นต่ำและค่าไฟสูงขึ้น ส่งผลให้ต้นทุนเพิ่มขึ้น ปัจจัยนี้มีผลกระทบต่อเนื่องจนถึงไตรมาส 1 ปี 2562
อันดับที่ 2 คือ หุ้นอ้างอิง PTT ที่มีสัดส่วนการซื้อขายสูงถึง 7.32% หลังมีมุมมองระมัดระวังมากขึ้นต่อแนวโน้มของ PTT แม้ราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นเป็นแรงหนุนต่อหุ้นกลุ่มพลังงาน เนื่องจากยังมีประเด็นที่เป็นข้อกังวลสำคัญ คือ 1.ความเป็นไปได้ในลงทุนในโครงการรถไฟความเร็วสูงของรัฐบาล 2.การควบคุมราคาพลังงานหลังเลือกตั้ง 3.การแข่งขันในธุรกิจน้ำมันค้าปลีกที่รุนแรงขึ้น และ4.ความสามารถในการทำกำไรของธุรกิจก๊าซที่ลดลง
อันดับที่ 3 คือ หุ้นอ้างอิง PTTEP ที่มีสัดส่วนการซื้อขาย 5.09% หลัง PTTEP มีเป้าหมายจะเพิ่มปริมาณสำรองที่พิสูจน์แล้ว (Proved reserve หรือ P1) จากระยะเวลา 5 ปี เป็น 10 ปี และการตัดสินใจลงทุนขั้นสุดท้ายของโครงการ Mozambique และโครงการ Bongkot & Erawan (ถ้าบริษัทชนะการประมูล) จะส่งผลให้บริษัทมี P1 เพิ่มขึ้นเป็น 7-8 ปี ในปี 2562 ขณะเดียวกันนักลงทุนเชื่อมั่นว่า PTTEP จะได้รับชัยชนะในการประมูลแหล่งปิโตรเลียมที่จะเกิดขึ้นในพื้นที่ Bongkot & Erawan
เอ็มดีหลักทรัพย์บัวหลวง กล่าวว่า ไม่แปลกที่ธุรกรรม Block Trade จะเติบโตแบบก้าวกระโดด เพราะถือเป็นการลงทุนในกลุ่มที่มีผลตอบแทนสูง เมื่อผลตอบแทนสูง ความเสี่ยงก็สูงเช่นกัน (High Risk & High Return) ฉะนั้นนักลงทุนต้องใช้ความรอบคอบ และศึกษาข้อมูลให้ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการวางหลักประกัน หากราคาหุ้นเคลื่อนไหวผิดทิศทางจะส่งผลโดยตรงต่อเงินวางหลักประกัน ด้วยภาวะตลาดที่มีความผันผวน Block Trade ถือเป็นทางเลือก สำหรับการกระจายความเสี่ยงและการลงทุนระยะสั้นได้ดี ดังนั้นนักลงทุนควรใช้เครื่องมือในการช่วยวิเคราะห์ทางเทคนิค เพื่อกำหนดทิศทางการลงทุน จุดขายหรือตัดขาดทุนได้เหมาะสม
www.mitihoon.com