นอร์ทอีส รับเบอร์ (NER)’ เคาะราคา IPO ที่ 2.58 บ./หุ้น จอง 29-31 ต.ค. คาดเทรด SET พ.ย.นี้ นำเงินสร้างรง.ใหม่ อัพผลิตยางแท่ง-ยางผสมเทียม

228

 

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า นายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานกรรมการ บริษัท แอซเซทโปร แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ APM ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บมจ.นอร์ทอีส รับเบอร์ หรือ NER เปิดเผยว่า NER ได้แต่งตั้ง บล.โนมูระ พัฒนสิน เป็นผู้จัดการการจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้น (Lead Underwriter) พร้อมผู้ร่วมจัดจำหน่ายหุ้นอีก 7 บริษัท โดย NER จะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 600 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ 0.50 บาท หรือคิดเป็นสัดส่วนการเสนอขาย 38.96% ของจำนวนหุ้นสามัญเพิ่มทุนครั้งนี้ ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีทุนจดทะเบียน 770 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 1,540 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท

โดยที่ผ่านมาบริษัทได้เดินสายโรดโชว์นำเสนอข้อมูลแก่นักลงทุนในประเทศ และต่างประเทศ และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ซึ่งปัจจุบันสำนักงาน ก.ล.ต. ได้แจ้งอนุญาตเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ NER และเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม บริษัทได้รับแจ้งการมีผลใช้บังคับของแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์(ไฟลิ่ง) เรียบร้อยแล้ว และคาดว่าจะเข้าเทรดกระดาน SET พ.ย.นี้ โดยกำหนดราคา IPO ที่ 2.58 บ./หุ้น จอง 29-31 ต.ค.นี้

ปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนการจำหน่ายสินค้าให้แก่ลูกค้าในประเทศ ประมาณ 60% และส่งออกต่างประเทศ 40% โดยผลการดำเนินงานในปี 60 ที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้รวม 9,819.70 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 224.12 ล้านบาท และงวดครึ่งแรกปี 61 มีรายได้อยู่ที่ 3,976.51 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 166.67 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 4.19%

สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุน นำไปขยายกำลังการผลิตเพิ่มเติมจากปัจจุบันกำลังการผลิตยางรวมทั้งสิ้นอยู่ที่ 2.3 แสนตันต่อปี โดยในปี 62 บริษัทมีแผนการปรับปรุงเครื่องจักรของยางแผ่นผสม เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตอีก 6 หมื่นตัน/ปี งบลงทุนราว 40 ล้านบาท และในปี 63 มีแผนสร้างโรงงานยางแท่ง (Standard Thai Rubber 20: STR20) และยางแท่งผสม (STR Mixtures Rubber) เพิ่มอีก 1 โรง กำลังการผลิตรวม 1.72 แสนตัน/ปี งบลงทุนราว 456 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าส่งผลให้ปี 63 กำลังการผลิตรวมจะเพิ่มเป็นเท่าตัว นอกจากนี้ จะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ

ทั้งนี้ เมื่อรวมการลงทุนในเครื่องจักรเพื่อปรับปรุงเครื่องจักรยางแผ่นผสมที่จะแล้วเสร็จในปี 2562 และการลงทุนก่อสร้างโรงงาน ยางแท่ง STR และยางแท่งผสมแห่งใหม่ที่จะแล้วเสร็จในปี 2563 จะส่งผลให้บริษัทมีกําลังการผลิตยางพาราแปรรูป รวมทั้งโรงงานเป็น 465,600 ตันต่อปี

www.mitihoon.com