มิติหุ้น– SCCคาดรายได้รวมปีนี้โต 7% ความต้องการใช้ปูนโต 5% เตรียมทบทวนแผนลงทุนใหม่หลังได้รับผลกระทบสงครามค้าจีน สหรัฐฯ พร้อมพลิกวิกฤตเป็นโอกาสเจาะตลาดจีน-สหรัฐฯ เพิ่ม เล็งทบทวนแผนลงทุนใหม่ และเตรียมลงทุนโลจิสติกส์พื้นที่ EEC รองรับการส่งออก
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย หรือ SCC โดยนายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวว่า คาดว่าภาพรวมรายได้จากการขายในปี 61 จะเติบโตได้ในระดับ7% เนื่องจากแนวโน้มตลาดโดยรวมดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจซีเมนต์คาดว่าความต้องการภายในประเทศไทยจะเติบโตประมาณ 5% ขณะผลิตภัณฑ์ก่อสร้างที่มีความต้องการเพิ่มขึ้นจากโครงการลงทุนของภาครัฐและเอกชน ส่วนตลาดเคมิคอลส์ราคาดีขึ้นตามทิศทางราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ยังทรงตัวในระดับสูง แต่ก็ส่งผลต่อต้นทุนวัตถุดิบเพิ่มขึ้น ธุรกิจแพคเกจจิ้งยังมีความต้องการอยู่อย่างต่อเนื่อง
ส่วนภาพรวมยอดขายในช่วงไตรมาส4/61 คาดว่าจะเติบโตลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาส3/61 เนื่องจากไตรมาส4 มีวันหยุดยาวเยอะส่งผลต่อการทำธุรกิจทางธุรกิจ แต่จะเพิ่มขึ้น 7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อจากความต้องการใช้ซีเมนต์เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ สงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกานั้นมีผลกระทบเชิงลบมากกว่าเชิงบวกต่อ SCC
โดยเตรียมทบทวนการลงทุนใหม่ทั้งที่ลงทุนไปแล้วก็อาจจะลดมูลค่าลง ส่วนที่อยู่ระหว่างศึกษาก็อาจจะชะลอการลงทุนหรือพิจารณาหาพันธมิตรมาร่วมลงทุน และพิจารณาขายกิจการที่ไม่แข็งแกร่ง ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในเดือน ธ.ค. 61
พร้อมกันนี้ยังได้มีการลงทุนด้านเทคโนโลยีมาพัฒนาสินค้าให้มีมูลค้าเพิ่มขึ้น การลดต้นทุนด้านพลังงานทดแทนเพื่อลดต้นทุนด้านการใช้พลังงาน เพื่อรับมือกับความผันผวนของตลาดและทิศทางราคาน้ำมัน ต้นทุนวัตถุดิบ
“ยอมรับว่าส่งครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ มีผลเชิงลบมากกว่าเนื่องจากจีนอาจจะมาขยายตลาดในภูมิภาคเอเชียมากขึ้นทำให้เกิดภาวะการแข่งขันที่สูง แต่ก็เป็นโอกาสที่ SCC จะขยายตลาดทั้งเคมิคอลล์ ไปยังจีนและสหรัฐอเมริกาได้มากขึ้น โดยในปัจจุบัน SCC มียอดส่งออกสินค้าปจีนราว 10% ของภาพรวมการส่งออกที่อยู่ในระดับ 50%”
ส่วนความคืบหน้าการลงทุนปิโตรเคมีครบวงจรที่ประเทศเวียดนามเริ่มดำเนินการออกแบบด้านวิศวกรรม การจัดหาเครื่องจักรอุปกรณ์ และการเตรียมที่ดินสำหรับก่อสร้าง ขณะการลงทุนในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) จะเน้นการลงทุนด้านโลจิสติกส์ เนื่องจากมองโอกาสการส่งออกระหว่างอาเซียนกับจีน และรองรับการขนส่งภายในประเทศ ส่วนการใช้เงินลงทุนในปีนี้ยังคาดว่าจะอยู่ในระดับ 4-4.5 หมื่นล้านบาท ในปี 62 คาดว่าจะอยู่ในระดับ 5-6 หมื่นล้านบาท
www.mitihoon.com