ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB โดยนายธนา เธียรอัจฉริยะ รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส Chief Marketing Officer เปิดเผยว่า ในช่วงกว่า 1 ปีที่ผ่านมา SCB EASY ได้มีการทำ Digital Transformation โดยแบ่งออกเป็น 3 ขั้น คือ 1. ดิจิทัล โปรดักส์ (Digital Product) คือการปรับโฉม ยกแพลตฟอร์มใหม่ครั้งใหญ่ให้ลูกค้าสามารถใช้งานได้ง่ายและสะดวกขึ้น มีความเสถียร และยังได้สร้างเทรนด์กดเงินไม่ใช้บัตร จนกลายเป็นฟีเจอร์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากจากลูกค้า 2. ดิจิทัล มาร์เก็ตติ้ง (Digital Marketing) ซึ่งได้ประกาศยกเลิกค่าธรรมเนียม ในการทำธุรกรรมผ่านช่องทาง SCB EASY เป็นการทำการตลาดเพื่อดึงให้ลูกค้ามาใช้งานโมบายแบงก์กิ้งให้มากที่สุด
ขณะที่ปัจจุบันกำลังเข้าสู่ขั้นที่ 3 คือดิจิทัล ฟูลฟิลเมนต์ (Digital Fulfillment) การเติมเต็มความต้องการของลูกค้ายุคดิจิทัล ซึ่งจะเป็นก้าวต่อไปของธนาคารที่ไม่ใช่เพียงแค่การนำเสนอฟีเจอร์ใหม่ๆ สู่ผู้บริโภคเท่านั้น แต่ธนาคารจะต้องรู้ใจ และเข้าใจความต้องการด้านธุรกรรมการเงินในแต่ละช่วงเวลาได้อย่างรวดเร็ว โดยตั้งเป้าว่าลูกค้าจะสามารถทำธุรกรรมของธนาคารโดยไม่ต้องไปที่สาขาของธนาคารให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
ทั้งนี้ ธนาคารได้มีการยก 20 ฟีเจอร์เด่น เช่น บริการเปิด-ปิดบัตรเครดิตได้ด้วยตนเอง บริการขอสเตทเมนต์ย้อนหลัง 1 ปี บริการโอนเงินได้สูงสุด 10 รายการพร้อมกัน บริการจ่ายบิลค่าน้ำ ค่าไฟ ได้ทุกที่ทั่วโลก บริการเติมเงินบัตรทางด่วนได้ทุกที่ทุกเวลา เป็นต้น ซึ่งสามารถรองรับทุกไลฟ์สไตล์ทางการเงินของทั้งกลุ่มผู้บริโภคทั่วไป และกลุ่ม SME โดยธนาคารมีเป้าหมายที่จะสร้างฟีเจอร์ใหม่ๆเพื่อให้บริการลูกค้าไม่ต่ำกว่า 150 ฟีเจอร์ ซึ่งภายในช่วง 6 เดือนข้างหน้าคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการฟีเจอร์ใหม่เพิ่มเติมอีกราว 50 ฟีเจอร์
ในส่วนของสินเชื่อดิจิทัล” (Digital Lending) ที่ครอบคลุมความต้องการในทุกรูปแบบของลูกค้า และให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ทุกที่ทุกเวลา ธนาคารมั่นใจว่าแนวคิดทางการตลาดดังกล่าวจะสามารถผลักดันให้เกิดการทำธุรกรรมทั้งหมดบนแอปฯเป็นการทำธุรกรรมแบบไม่ใช่เงินสด (Non-cash transaction) อยู่ที่ 99% ภายใน 6 เดือน
โดยธนาคารตั้งเป้าหมาย-ไว้ว่าภายในสิ้นปี 2561 จะมีฐานผู้ใช้งาน SCB EASY เข้าสู่ระดับ 10 ล้านราย พร้อมทั้งมียอดสมัครสินเชื่อดิจิทัลผ่านแอปฯ กว่า 8 แสนราย และตั้งเป้ายอดผู้ใช้งาน SCB EASY สู่ 12.5 ล้านราย ภายในสิ้นปี 2562 เพื่อมุ่งสู่การเป็นดิจิทัลฟูลฟิลเมนต์แพลตฟอร์มอย่างแท้จริง