5 อันดับข่าวเด่นมิติหุ้นภาคบ่าย

215

อันดับที่ 1 ORI กวาดกำไรพิเศษเพิ่ม หนุนผลงานแกร่ง คาดทั้งปีกำไรสุทธิ 3,469 ลบ. เพิ่ม 72% มองเป้ายาว 14 บ.

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ประเมินแนวโน้ม บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ หรือ ORI คาดผลงานไตรมาส 3/61 จะอ่อนตัว เนื่องจากไตรมาสนี้ไม่มีโครงการคอนโดมิเนียมใหม่สร้างเสร็จพร้อมส่งมอบ มีเพียงโครงการที่ต่อเนื่องมาจากไตรมาส 2 ทำให้คาดว่ารายได้จะเท่ากับ 3,315 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 99% เทียบ Q3/60 แต่ลดลงจากไตรมาสำก่อน 13% ขณะที่ค่าใช้จ่าย SG&A ต่อรายได้ คาดสูงขึ้นเท่ากับ 18% จากรายได้ที่อ่อนตัว อย่างไรก็ตาม ในไตรมาส 3/61 คาดกำไรพิเศษก่อนการหักภาษีที่ประมาณ 358 ล้านบาท จากการขายที่ดินให้โครงการ JV จำนวน 2 แปลง ดังนั้น คาดกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติอยู่ที่ 535 ล้านบาท อ่อนตัวลงทั้งจากช่วงเดียวกันปีก่อนและไตรมาสก่อนหน้า และมีกำไรสุทธิ 821 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 48% โดยในช่วง 9 เดือนแรก คาดมีรายได้ 9,531 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 158% และกำไรสุทธิ 2,329 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 141% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน

อันดับที่ 2 PTT ยันลดราคาน้ำมันกลุ่มวินมอเตอร์ไซค์ต้องเข้าบอร์ดอนุมัติ พร้อมตอบรับพันธมิตรชวนลงทุนรถไฟความเร็วสูง ย้ำ GPSC ซื้อ GLOW ไม่กระทบ ระบบการผลิตไฟฟ้า

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ปตท. หรือ PTT โดยนายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า การร่วมสนับสนุนรถจักรยานยนต์รับจ้าง โดยการลดราคาน้ำมันแก๊สโซฮอลล์ 91 ในสัดส่วน 3 บาทต่อลิตรนั้น ยังอยู่ในขั้นตอนศึกษาในรายละเอียด รวมถึงรอดูสถานการณ์ราคาน้ำมันก่อน ประกอบกับต้องนำเสนอคณะกรรมการ (บอร์ด) ปตท. พิจารณา คาดว่าจะได้ข้อสรุปปลายปีนี้ หรือไม่เกินต้นปีหน้า ขณะที่การประมูลรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินนั้น PTT เตรียมความพร้อมในการลงทุนไว้แล้ว ซึ่งหากผู้ชนะประมูลมาชวนให้ร่วมลงทุน ก็จะใช้จุดแข็งของ ปตท. เข้าไปสนับสนุนการร่วมลงทุน เช่น การบริหารจัดการพื้นที่ เนื่องจากในเขตพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เป็นพื้นที่การลงทุนหลักของกลุ่ม ปตท.อยู่แล้ว รวมถึงการใช้จุดแข็งด้านระบบพลังงานเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมลงทุนในโครงการนี้

อันดับที่ 3 SCBS ส่องดัชนีปี 62 แตะ 2,000 จุด เม็ดเงิน FDI ทำระดับสูงสุดรอบ 4 ปี ชูกลุ่มนิคมฯ-แบงก์ เด่น

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บล.ไทยพาณิชย์ หรือ SCBS โดยนายพรเทพ ชูพันธุ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน สายงานวิจัย เปิดเผยว่า เม็ดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ทำจุดสูงสุดในรอบ 4 ปี อาจเป็นแค่จุดเริ่มต้นของวัฏจักรการลงทุนขาขึ้นของไทยที่กำลังตามมา ทั้งจากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน การลงทุนใน EEC และการย้ายฐานการผลิตจากจีนมายังภูมิภาคนี้ ซึ่งเป็นผลพวงจากสงครามการค้า นอกจากนี้ ยังปัจจัยบวกต่างๆ ทั้งเศรษฐกิจที่ขยายตัวดี เสถียรภาพค่าเงินดีจากดุลบัญชีเดินสะพัดแข็งแกร่ง ตลอดจนการเข้าสู่ฤดูเลือกตั้งจะส่งผลดีต่อตลาดหุ้นไทย ทำให้คาดว่า SET Index น่าจะทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 2,000 จุด ภายในปี 2562 โดยใช้สมมุติฐาน PE ที่ 15.6 เท่าจาก sentiment เชิงบวกจากการเลือกตั้ง ประกอบกับการเติบโตของกำไรต่อหุ้น (EPS) ของตลาดโดยรวมที่ราว 8-10% ตาม GDP ที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างแข็งแกร่ง

อันดับที่ 4 IAA ยันหุ้นไทยไม่หลุด 1,580 จุด จากพื้นฐานที่แข็งแกร่ง สภาพคล่องสูง คาดจากนี้ไปจะเป็นขาขึ้น

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า สมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน หรือ IAA โดยนายไพบูลย์ นลินทรางกูร นายกสมาคม  และประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO)  กล่าวในงาน MARKET UPDATE ว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยที่ปรับตัวลดลงในช่วงที่ผ่านมา เป็นผลมาจากได้รับปัจจัยกดดันจากตลาดหุ้นทั่วโลก Oversold จากท่าทีของประธานนาธิปดีสหรัฐมีท่าทีแข็งกร้าวกับหลายประเทศ ซึ่งหากผ่านช่วงการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐไปแล้ว และ “ทรัมป์” ได้รับตำแหน่ง คงมีท่าทีที่เปลี่ยนไปบ้าง ขณะเดียวกัน ยังมองว่าตลาดหุ้นสหรัฐที่ปรับฐานรอบนี้ ยังไม่เห็นสัญญาณการชะลอตัวของเศรษฐกิจ โดยกลุ่มหุ้นที่ปรับตัวลดลงเป็นกลุ่มเทคโนโลยี ซึ่งเกินมูลค่าไปค่อนข้างมากก่อนหน้านี้ สะท้อนจากหุ้นในหลายประเทศที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีปรับตัวลดลงตาม โดยเฉพาะจีน

อันดับที่ 5 BJC งบQ3 โตโดด รับอานิสงส์ไฮซีซั่นธุรกิจ วงในเชียร์ ทยอยดอด ให้เป้า 21บ.

ผู้สื่อข่าว”มิติหุ้น”รายงานว่า   บล.ฟิลลิป โดยฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ ระบุว่า จากการประเมิน บมจ. เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ หรือ BJC เชื่อว่ากำไรสุทธิในไตรมาส3/61 จะเติบโตได้ 18% จากไตรมาสก่อนและเติบโต  43% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจาก จากการเติบโตในกลุ่มลูกค้าเงินสด โดยเป็นผลจาก High season, ฤดูฝนที่มาเร็วและนานกว่าในช่วงปีก่อน ตลอดจนการปรับปรุงพื้นที่และการเพิ่มกำลังให้บริการ ขณะคาดกลุ่มผู้ประกันตนลดลงจากใน ไตรมาส 3/60 ที่ 7.98 แสนราย เป็น 7.87 แสนราย หากคาดรายได้เฉลี่ยต่อหัวยังโตได้เล็กน้อยเนื่องมาจากความซับซ้อนของโรคเพิ่มขึ้น กอปรคาดจะมีการบันทึกรายได้ประกันสังคมส่วนเพิ่มเข้ามา ทำให้คาด GPM จะขยับขึ้นเป็น 35.4% จากในไตรมาส 3/60  ที่ 35.2% และ ไตรมาส2/61 ส่วน SG&A /Sale คาดอยู่ที่ 11.6% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน  และในไตรมาสก่อน ที่ 15.0% ส่งผลให้กำไรไตรมาส 3/61 อยู่ที่ 359 ลบ.  ดังนั้นจึงแนะนำ ทยอยซื้อ โดยมีราคาเป้าหมายพื้นฐาน  21 บาท

www.mitihoon.com