ครบรอบ 20 ปี วิกฤตต้มยำกุ้ง และครบรอบ 10 ปี วิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ ก่อนหน้านั้นก็มี Black Monday
มาทบทวน Time Line กันซักหน่อยครับ 1987-1997 ช่วงวิกฤต “Black Monday”
1997-2007 ช่วงเกิดวิกฤตต้มยำกุ้งและเศรษฐกิจฟื้นตัว
2008-2018 ช่วง วิกฤตแฮมเบอร์เกอร์และเศรษฐกิจฟื้นตัว
#จะเห็นว่าทุกๆ 10 ปี ชีวิตการลงทุนนั้นไม่เคยเหงาเลย มีวิกฤตทางการเงินมาให้เราได้ตื่นเต้นกันอยู่ตลอดเวลา?
ยังไม่รวยเลย มันจะเกิดวิกฤตแบบจนๆ อย่างนี้เหรอนี่?
ตอนต้มยำกุ้ง ผมจบโยธามาหลังฟองสบู่แตกไม่กี่ปี ก็ยังไม่ได้เข้ามาในตลาดหุ้น แต่พอจะทราบจากคำบอกเล่าว่าก่อนจะเกิดวิกฤตนี่ ทุกคนแฮปปี้เฮฮามาก อย่างเฮียที่ทำขนส่งทางรถ ทางเรือเคยเล่าให้ฟังว่า ช่วงนั้นไปคล้องมาลัยนักร้องคืนล่ะแสน ทั้งเรือทั้งรถ วิ่งขนถ่านหิน ขนปูนกันแทบไม่ได้พัก…แปลว่า BDI มันต้องสูงถูกไหม…แต่ตอนนี้ล่ะ
ทีนี้ไอ้ช่วงนี้มันก็ได้รอบ 10 ปี พอดี….แต่ไม่เห็นจะมีบรรยากาศอะไรแบบที่เคยได้ยินมา มีแต่คนบ่นว่าไม่มีกะตังค์………ตลาดหุ้นที่ควรจะ peak แบบทุกคนแฮปปี้เฮฮา ก็ไม่เห็น ถึงแม้จะทำ New High ก็ไม่เห็นจะมีใครบอกว่าเหมือนสมัยก่อนเกิดต้มยำกุ้งที่ทุกคนรู้สึกรวยมาก
โดยส่วนตัวผมคิดมาตลอดว่าจะได้เห็นบรรยากาศของ “ราชากระทิง” ทุกคนยิ้มแย้มแจ่มใส ก่อนที่ทุกอย่างจะพังลงมา ก็ไม่ได้เห็น
#หยิบ TD SEQUENTIAL ที่ใช้อยู่มาส่องกราฟ ก็ดันเจอสัญญาณมรณะ พี่ #9 ?
ไปเอา 10-2 Year Treasury Yield Spread ที่เค้าใช้ทำนายวิกฤตทางการเงินมาส่องดู ก็ได้สัญญาณที่ไม่ดีอีกเช่นกัน คือ ปกติ นี่ Yield ของ Bond ที่มีอายุมากกว่า มันควรมากกว่าตัวอายุสั้น เพราะมีเรื่องของ Duration
แต่ภาวะผิดปกติทางการเงินจะเกิด เมื่อ มันกลับตาลปัตร คือ Yield ตัวสั้น ดันมากกว่า ตัวยาว สะท้อนไปถึงสภาพว่า การฟื้นตัวเศรษฐกิจอาจจะไม่เป็นจริง {คือคนไม่เชื่อในภาพระยะยาว ผมอธิบายแบบภาษาชาวบ้านแล้วกัน} ?
ส่วนภาพนี้คือ 2-10 Spread ชื่อมันแบบนี้นะครับ แต่เวลาคิดเอา 10-2 YR
ก็น่ากังวลนั่นล่ะครับ ไม่มีใครอยากให้เกิดวิกฤตเศรษฐกิจหรอก โดยเฉพาะนักลงทุน
ยังไง long put options ดูๆไว้บ้างครับ play safe
โดยม้าเฉียว ดูหุ้น The Future
www.mitihoon.com