ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทในช่วงไตรมาส 4/61 ล่าสุดอ่อนค่าลง 2.34% (17 ต.ค.ที่ 32.4965 บาท/ดอลลาร์ ถึง 30 ต.ค.ที่ 33.26 บาท/ดอลลาร์) เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/61 ที่แข็งค่าประมาณ 2.25% ซึ่งหากนับตั้งแต่ต้นปี 61 ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงประมาณ 2.34% โดย “นายจิตติพร จันทรัช” กรรมการผู้จัดการ บมจ.เอ็กโซติค ฟู้ด หรือ XO เผยว่า จากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าบริษัทมองว่ายังทรงตัวจากช่วงต้นปี แต่ในช่วงไตรมาส 3/61 บริษัทมีการปรับเพิ่มราคาสินค้าเฉลี่ยที่ 2-2.5% ส่งผลให้ผลงานโตต่อเนื่อง
ขณะเดียวกัน บริษัทยังมีคำสั่งซื้อสินค้าเข้ามาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงบริษัทได้เซ็นสัญญาซื้อวัตถุดิบน้ำตาลล่วงหน้าอีก 3,000 ตัน ในราคาที่ปรับตัวลดลงอีก 18% ซึ่งช่วยลดต้นทุนลงประมาณ 15% คาดว่าจะเริ่มใช้ในช่วงไตรมาส 4/61 จนถึงปลายปี 62
ล่าสุด บริษัทมีสัดส่วนสินค้า แบ่งเป็นกลุ่มสินค้าหลัก กลุ่มซอสและน้ำจิ้ม คิดเป็น 79%, เครื่องแกง 10%,เครื่องดื่ม 1.6%, อาหารสำเร็จรูป 2% และอื่นๆ 6.5%
ทั้งนี้ บริษัทมันใจว่าผลประกอบการทั้งปี 2561 จะทำสถิติสูงสุดใหม่ หรือเติบโตอยู่ที่ 10-15% ไปจนถึงปี 2562 เป็นผลมาจากปริมาการขายที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ต้นทุนวัตถุดิบลดลง รวมถึงบริษัทยังมีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกมาทดลองตลาดอย่างต่อเนื่อง
ด้านนักวิเคราะห์ บล.โกลเบล็ก ประเมินแนวโน้มธุรกิจ XO คาดกำไรไตรมาส 3/61 ราว 45 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 135% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และคาดรายได้ไตรมาส 3/61 จะเติบโต 15% สู่ระดับ 258 ล้านบาท จากการมุ่งเน้นขยายตลาดใหม่ต่อเนื่อง โดยเฉพาะโซนยุโรปตะวันออก อีกทั้งไม่ต้องกังวลเรื่องคุณภาพของสินค้า เนื่องจากโรงงานใหม่ที่ระยองสามารถเดินเครื่องผลิตได้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น
www.mitihoon.com
