ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย หรือ Thailand Future Fund (TFFIF) โดยนายประภาศ คงเอียด ผู้อำนวยการ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) และตัวแทนภาครัฐ เปิดเผยว่า การจัดตั้งกองทุน TFFIF ครั้งนี้ เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ในการระดมทุนให้แก่หน่วยงานภาครัฐและหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ นำไปใช้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่มีส่วนสำคัญในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้แก่ประเทศ โดยไม่ต้องพึ่งพางบประมาณแผ่นดินหรือเงินกู้ยืมที่มีรัฐบาลค้ำประกัน
สำหรับการเข้าระดมทุนในครั้งนี้ จะนำไปใช้ลงทุนพัฒนาทางพิเศษ 2 สายทาง ได้แก่ โครงการทางพิเศษสายพระราม 3 – ดาวคะนอง – วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก และโครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ ตอน N2 เชื่อมต่อไปยังถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันออกและส่วนต่อขยายทดแทน ตอน N1 เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางแก่ผู้ใช้รถใช้ถนน
ทั้งนี้ การเสนอขายหน่วยลงทุนส่วนเพิ่มทุนในครั้งนี้ของ TFFIF มีจำนวนหน่วยลงทุนเสนอขายสุดท้ายเท่ากับ 4,470 ล้านหน่วย คิดเป็นมูลค่าการเสนอขายหน่วยลงทุนส่วนเพิ่มทุนทั้งหมดเท่ากับ 44,700 ล้านบาท นับเป็นการเสนอขายที่มีมูลค่าการเสนอขายสูงที่สุดในประเทศไทยและในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในปี 2561
และอยู่ระหว่างศึกษานำทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 และมอเตอร์เวย์หมายเลข 9 วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร เข้ากอง TFFIF เพิ่ม โดยมี 2 แนวทาง ได้แก่ การแก้ไขกฎหมายการเก็บค่าผ่านทางให้สามารถนำส่วนแบ่งเข้ามาระดมทุนได้ และการจัดตั้งกองทุนใหม่ ในรูปแบบนิติบุคคลเฉพาะกิจเพื่อมาทำสัญญาเข้าร่วมลงทุนใน TFFIF เบื้องต้น คาดว่าจะสามารถนำโครงการดังกล่าวเข้ากองได้ในช่วงไตรมาส 2/62
นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างพิจารณานำ บมจ.กสท โทรคมนาคม (CAT) และบมจ. ทีโอที (TOT) เข้ากองทุน TFFIF ในปีหน้า อย่างไรก็ตาม ต้องรอให้ทั้ง 2 บริษัทควบรวมกิจการกันแล้วเสร็จภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 ก่อน ถึงจะเริ่มดำเนินการในขั้นตอนต่อไปได้
www.mitihoon.com