อันดับที่ 1 GUNKUL ขายไฟโครงการ เซนได โอคุระ 31 MW เดินหน้าสู่เป้า1,000 MW ภายในปี 63
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง หรือ GUNKUL โดยนางสาวโศภชา ดำรงปิยวุฒิ์ ประธานกรรมการบริหาร เผยว่า บริษัทฯ ได้เข้าลงทุนใน บริษัท เซนได โอคุระ จีดี ไดอิจิ โกโด ไคฉะ (GK Sendai) ซึ่งเป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน โดย GK Sendai ได้จำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ เซนได โอคุระ จำนวน 31.75 เมกะวัตต์ เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2561 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ บริษัทมั่นใจว่ากำไรสุทธิปีนี้จะโตกว่าปีก่อน ตามการรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าที่มากขึ้นเป็นอย่างมาก ขณะเดียวกันยังมีการรับรู้รายได้จากธุรกิจรับเหมา (EPC) เข้ามาเพิ่มเติมในช่วงที่เหลือของปีนี้ราว 800 – 900 ล้านบาท ซึ่งเป้าหมายรายได้ในปีนี้บริษัทยังคงเป้าที่ 6,050 ล้านบาท หรือเติบโต 25% จากปีก่อนที่ทำได้ 4,855 ล้านบาท ทั้งนี้บริษัทคาดหวังว่าปี 63 จะมีกำลังการผลิตรวมทั้งหมด 1,000 เมกะวัตต์
อันดับที่ 2 MACO คาดกำไร Q3/61 โต 23% หนุนผลงานทั้งปีพุ่ง ATH โบรกแนะ “ซื้อ” ราคาเหมาะสม 2.54 บ.
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ประเมินแนวโน้ม บมจ. มาสเตอร์ แอด หรือ MACO คาดไตรมาส 3/61 จะมีกำไรสุทธิ 74 ล้านบาท ขยายตัว +18% จากไตรมาสก่อน และ + 23% จากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยรายได้คาดจะดีดตัวออกจาก low season ในไตรมาส 2/61 ราว +4% และจากการเริ่มรวมงบของ Trans.Ad และ Roctec เข้าไปตั้งแต่ ส.ค.ที่ผ่านมา ส่วนการการเข้าซื้อ VGM จะเสร็จสิ้นในระหว่างไตรมาส 4/61 ซึ่ง จากประมาณการกำไรของ VGM (โดย MACO) ที่จะเข้ามารวมงบกับ MACO ในปี 2562 เต็มปี พบว่ากำไรต่อหุ้น (EPS) ซึ่งรวมผล dilution ของการทำ RO ก่อนหน้าแล้ว และผลของการเริ่มแปลงสภาพ MACO-W2 บางส่วนในปลายปี 2563 EPS มีโอกาสจะถูกปรับประมาณการขึ้นอีก 4.9% และ 9.8% ในปี 2562 และ 2563 ตามลำดับ ดังนั้น มองว่าทิศทางของกำไรปกติ และแผนของบริษัท ยังคงเดินหน้าไปตามแผน ขณะที่แนวโน้มผลการดำเนินงานยังคงอยู่ในทิศทางที่ดี และลุ้น All time high ได้อีกด้วย คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสมปี 2562 ที่ 2.54 บาท/ หุ้น อิง PEG 1.0x บน EPS growth ที่ 23.5% YoY ในปี 2562
อันดับที่ 3 TEAMG เก็บงานใหม่เข้าพอร์ต ปั้นผลงานทั้งปีเข้าเป้า 1.75 พันลบ.
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนท์ หรือ TEAMG โดยนายชวลิต จันทรรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เผยว่า สำหรับแนวโน้มผลงานในปีนี้คาดรายได้จะอยู่ที่ 1,750 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีรายได้ 1,608 ล้านบาท ตามงานใหม่ที่เพิ่มขึ้นและรับรู้รายได้อย่างสม่ำเสมอ ขณะที่ปี 2562 บริษัทคาดรายได้จะแตะ 1,900 ล้านบาท ส่วนภาพรวมธุรกิจในต่างประเทศ ขณะนี้มีสัญญาณการจ้างงานที่สูงขึ้น โดยเฉพาะในเมียนมา, กัมพูชา, เวียดนาม, อินโดนีเซีย, สปป.ลาว, ติมอร์เลสเต โดยเป็นการเข้ารับงานจากผู้ประกอบการต่างประเทศ รวมถึงรับงานผ่านผู้ประกอบการในประเทศ โครงการดังกล่าวถือเป็นโครงการในระยะเริ่มต้นของแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อกระตุ้นการเติบโตที่ยั่งยืนทางเศรษฐกิจ และพัฒนาประเทศไทยสู่ความมั่งคั่ง มั่นคง และ ยั่งยืน ตามวิสัยทัศน์ของประเทศ
อันดับที่ 4 TPIPL เล็งลงทุนปิโตรเคมีเวียดนาม ลั่นปีนี้พลิกกำไรชัวร์
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ทีพีไอ โพลีน หรือ TPIPL ผู้ผลิจจำหน่ายปูซีเมนต์และวัสดุก่อสร้าง โดยแหล่งข่าววงการอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ผู้บริหาร TPIPL ได้เดินทางไปเวียดนามเพื่อเจรจาร่วมลงทุนธุรกิจปิโตรเคมีในประเทศเวียดนาม รวมถึงศึกษาโอกาสลงทุนในธุรกิจผลิตไฟฟ้า โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปการลงทุนได้ต้นปีหน้า ขณะผลประกอบการปี 2561 คาดว่าจะเริ่มเห็นการกลับมาพลิกกำไรได้ หลังจากปี 2560 ขาดทุนสุทธิ 1,259 ล้านบาท เนื่องจากราคาปูนซีเมนต์ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องประกอบกับความต้องการใช้ปูนซีเมนต์เริ่มกลับมาฟื้นตัวดีขึ้นตามการขยายการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ โดยความต้องการใช้ปูนซีเมนต์ในประเทศเติบโตอยู่ในระดับ 3-4% ส่วนกำลังการผลิตปูนซีเมนต์ของบริษัทปีนี้ผลิตเต็มกำลังการผลิตแล้วที่ 13 ล้านตัน รวมถึงได้รับปัจจัยนุนจากบมจ.ทีพีไอพีพี หรือ TPIPP ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ TPIPL จะมีกำไรเติบโตมากขึ้น
อันดับที่ 5 BEM ชนะช้อพิพาท กทพ. ชำระค่าเสียหายพร้อมดอกเบี้ย 1.7 หมื่นลบ. กูรูแนะเป็นสัญญาบวกเตรียมปรับเป้า
มิติหุ้น-บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM) โดยนางพเยาว์ มริตตนะพร กรรมการผู้จัดการ แจ้งว่า บริษัทได้ยื่นคำเสนอข้อพิพาทต่อสัญญาอนุญาโตตุลาการเมื่อวันที่ 13 มิ.ย. 2556 เพื่อเรียกร้องให้การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ชำระเงินส่วนต่างรายได้ค่าผ่านทางตามประกาศกระทรวงคมนสาคม ฉบับลงวันที่ 15 ส.ค. 2551 กับอัตราค่าผ่านทางที่ถูกต้องตามสัญญานั้นเมื่อวันที่ 30 ต.ค.2561 อนุญาโตตุลาการได้มีมติเป็นเอกฉันฑ์ชี้ขาดให้ กทพ.ชดใช้ค่าเสียหายให้ BEM 9,091.79 ล้านบาท และดอกเบี้ยผิดตามสัญญาโครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 2 จำนวน 7,909.59 ล้านบา
