อันดับที่ 1 SCCC ผลงานแจ่ม Q3 กำไรทะยาน 44% ดีกว่าคาด
มิติหุ้น-บมจ. ปูนซีเมนต์นครหลวง (SCCC) โดย ศิวะ มหาสันทนะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แจ้งว่า ผลการดำเนินงานไตรมาสไตรมาส 3/61 ของบริษัทมีกำไรสุทธิ 887.37 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 44% จากไตรมาส 3/60 ที่มีกำไร 617.47 ล้านบาทส่วนกำไรสุทธิสำหรับงวด 9 เดือนของกลุ่มบริษัทฯ อยู่ที่ 33,746 ล้านบาท เพิ่มข้น 4 % จากงวด 9 เดือนปี 2560ที่มีกำไร 32,515 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากการปรับโครงสร้างกลุ่มผลิตภัณฑ์ซึ่งทำให้กำไรจากการจหน่ายสินค้าสูงขึ้น และการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพโดยเฉพาะในตลาดประเทศไทยซึ่งเป็นตลาดหลักของกลุ่ม นอกจากนี้ยังพบว้าความต้องการปูนซีเมนต์ในประเทศมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นด้วยเช่นเดียวกับตลาดในภูมิภาค ด้านบทวิเคราะห์ บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี(ประเทศไทย) ระบุว่า SCCC ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 3/61 ออกมามีกำไรสุทธิ 887 ล้านบาทหรือ EPS 2.98 บาท (+43.7% yoy, -13.1% qoq) แต่หากตัดขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 35 ล้านบาทออก จะมีกำไรปกติ 915 ล้านบาท ดีกว่าที่ตลาดคาด 11% โดย Bloomberg consensus ให้ราคาเป้าหมายที่ 275.80 บาท (Buy/Hold/Sell : 5/6/0)
อันดับที่ 2 AU ต่างชาติรุมจีบ จ่อตั้งสาขาฮ่องกงกลางปี 62 ย้ำเป้ารายได้ปีนี้โตเกิน 20%
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ. อาฟเตอร์ ยู หรือ AU โดยแหล่งข่าวจากวงการอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ผลประกอบการในไตรมาส 3/61 จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง ตามการเปิดสาขาใหม่เพิ่มมากขึ้น โดยปีนี้บริษัทได้เปิดสาขาใหม่แล้วทั้งหมด 8 สาขา ทำให้ปัจจุบันบริษัทมีสาขาทั้งสิ้น 34 สาขา ทำให้มั่นใจว่ายอดขายทั้งปี 61 จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% ตามเป้าขณะเดียวกัน บริษัทกำลังเตรียมความพร้อมในการตั้งสาขาใหม่ในประเทศฮ่องกงในช่วงกลางปี 62 เพื่อให้เป็นคู่สัญญาในการติดต่อขยายงานกับรองรับธุรกิจแฟรนไชส์ในต่างประเทศ ซึ่งที่ผ่านมามีผู้สนใจและเข้ามาเจรจามากกว่า 20 ประเทศ ส่วนการเปิดสาขาใหม่ที่ภูเก็ต และสุขุมวิท 101 คาดว่าจะต้องเลื่อนออกไปเป็นปี 62 เนื่องจากสถานที่ยังไม่พร้อมในการตั้งสาขา
อันดับที่ 3 IVL ประกาศเข้าซื้อกิจการเส้นใยในบราซิล เสริมความแข็งแกร่งธุรกิจมากขึ้น
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ. อินโดรามา เวนเจอร์ส หรือ IVL ผู้ผลิตเคมีภัณฑ์ชั้นนำระดับโลก โดย นายอาลก โลเฮีย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เผยว่า บริษัทประกาศลงนามข้อตกลงเข้าซื้อกิจการบริษัท M&G Fibras Brasil ซึ่งตั้งอยู่ที่เมือง Cabo de Santo Agostinho ประเทศบราซิล ซึ่งเป็นโรงงานผลิตและจำหน่ายเส้นใยสั้น มีกำลังการผลิต 75,000 ตันต่อปี สำหรับโรงงานแห่งนี้ตั้งอยู่ใกล้เคียงกับโรงงานผลิต PET ของอินโดรามา เวนเจอร์สในประเทศบราซิล และโรงงาน PTA ของผู้ผลิตภายนอก โดยบริษัทฯ คาดว่าจะก่อให้เกิดการเกื้อหนุนเพิ่มเติมจากการใช้สำนักงานขายในเมืองเซาเปาโลร่วมกัน การมีฐานการผลิตภายในประเทศ จะทำให้ไอวีแอลอยู่ในตำแหน่งที่ได้รับประโยชน์จากการขยายธุรกิจเข้าสู่ตลาดเส้นใยนันวูเว่นที่กำลังเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องในบราซิล
อันดับที่ 4 AAV ไตรมาส 4/61 ไฮซีซั่น หนุนกำไรฟื้นตัว ลุ้นรัฐเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่า
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.เอเชีย เอวิเอชั่น หรือ AAV ผู้ให้บริการสายการบิน โดยนายสันติสุข คล่องใช้ยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยว่า ภาพรวมผลประกอบการปี 61 จะยังเติบโตตามเป้าหมาย โดยมั่นใจว่าอัตราขนส่งผู้โดยสาร (Load Factor) อยู่ในระดับ 87% หลังจากครึ่งปีแรก 61 เฉลี่ยอยู่ในระดับ 88% และยังคงเป้าจำนวนผู้โดยสารไว้ที่ 23.2 ล้านคนจากปี 2560 อยู่ที่ 19.82 ล้านคน แม้จะได้ผลกระทบกับนักท่องเที่ยวจีนที่ลดลงก็ตาม แต่ในช่วงไตรมาส4/61 เป็นช่วงไฮซีซั่นของการท่องเที่ยว คาดว่าจะช่วยหนุนผลประกอบการเป็นไปตามเป้า ด้านแหล่งข่าวนักวิเคราะห์ประเมินหุ้น AAV ประเมินว่า ช่วงไตรมาส 3/61 จะยังคงขาดทุนสุทธิ เนื่องจากราคาน้ำมันอยู่ในระดับที่สูง ทำให้มีต้นทุนเชื้อเพลิงสูงขึ้นกระทบต่อธุรกิจการบิน อย่างไรก็ตาม ในช่วงไตรมาส 4/61 ผลประกอบการจะเริ่มกลับมาฟื้นตัวดีขึ้น หรือพลิกกลับมามีกำไรได้ ส่วนภาพรวมทั้งปี 61 คาดว่ามีกำไรสุทธิ 768 ล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับปี 60 เนื่องจากไตรมาส 4 เป็นช่วงไฮซีซั่นและมีลุ้นว่าคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะอนุมัติมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวช่วงไฮซีซั่นและเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่าให้นักท่องเที่ยวต่างชาติด้วย ดังนั้น จึงประเมินราคาหุ้น AAV พื้นฐานที่ 5.50 บาทพร้อมกับแนะนำซื้อ
อันดับที่ 5 TGPRO ได้อานิสงส์สงครามการค้า ดันออเดอร์พุ่ง ผนึกโมเดิร์นเทรด – รายได้นิวไฮ 2.2 พันล.
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ ไทย-เยอรมัน โปรดักส์ หรือ TGPRO ผู้ผลิตและจำหน่ายท่อสเตนเลสคุณภาพสูง โดย “นายธนงค์ ลีลาประชากุล” ผู้อำนวยการฝ่ายขาย เผยว่า แนวโน้มผลงานไตรมาส 3/61 จะเติบโตได้ดี แต่จะไปเติบโตโดดเด่นมากในช่วงไตรมาส 4/61 เนื่องจาก “สงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน” ทำให้ลูกค้าในสหรัฐและโซนยุโรป สั่งออเดอร์ท่อสเตนเลสเพิ่มขึ้นเป็น “เท่าตัว” ทำให้กำลังผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 2,000 ตัน/เดือน จากเดิม 1,600 ตัน/เดือน ดังนั้น ทั้งปี 61 มั่นใจรายได้จะทำนิวไฮแตะ 1.8 พันล้านบาท หรือเติบโตกว่า 20% จากปีก่อนที่ 1.48 พันล้านบาท ส่วนปี 62 รายได้จะทำนิวไฮต่อเนื่อง 2.2 พันล้านบาท เนื่องจากยอดขายต่างประเทศจะเพิ่มขึ้นสูงมาก ประกอบกับเริ่มรับรู้รายได้จากการจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางโมเดิร์นเทรด โดยบริษัทยังมีกำลังผลิตที่เพียงพอต่อความต้องการล่าสุดมีกำลังผลิตรวมที่ 35,000 ตันต่อปี ซึ่งใช้กำลังผลิตไปเพียง 50% ของกำลังผลิตเท่านั้น ล่าสุด TGPRO จัดตั้งบริษัทย่อย “บจ.เวิล์ด คลาส สมาร์ท ฟาร์ม” โดยบริษัทถือหุ้น 99.50% โดยมีวัตถุประสงค์ในการดำเนินธุรกิจด้านการเกษตร ตั้งแต่การเตรียมการเพาะปลูก การบริหารจัดการด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ การแปรรูปผลผลิต จนถึงการจัดจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ ในรูปแบบโครงการ “เกษตรดิจิตอล 4.0” อีกทั้งดำเนินการขาย และ/หรือ ให้เช่าที่ดิน เพื่อใช้ประโยชน์สำหรับการเกษตร และ/หรือ เพื่ออยู่อาศัย