ภาวะตลาดหุ้นไทยสัปดาห์ที่ผ่านมายังรีบาวด์ฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง หลังการพักฐานแรงในเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา อย่างไรก็ดีเราประเมิน Upside ของ SET index ยังจำกัด เนื่องจากยิ่งดัชนีปรับขึ้นสูงเร็ว ขณะที่ปัจจัยอื่นๆยังไม่หนุนเรื่อง Valuation (ดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลยังสูง แม้ดอกเบี้ยนโยบายยังไม่ขึ้น / กำไรของบริษัทจดทะเบียนปีนี้ยังวิ่งตามดอกเบี้ยไม่ทัน / เงินเฟ้อที่เร่งตัวขึ้นยิ่งเป็นตัวแปรให้กำไรที่แท้จริงของบริษัทจดทะเบียนถดถอย) ประเด็นที่นักลงทุนต้องติดตามต่อเนื่องในสัปดาห์นี้คือ เรื่องพัฒนาการของการเจรจาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ – จีน, มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน, และความคืบหน้ากรณี Brexit รวมทั้งการทยอย Preview / การรายงานผลประกอบการ 3Q61 ของบริษัทจดทะเบียน
เราประเมินดัชนี SET index ที่ปรับขึ้นยืนเหนือแนวต้านสำคัญ 1675 จุด (Count back line: CBL) เริ่มเกิดสัญญาณซื้อต่อเนื่องเกิดขึ้นหลังจากที่ผ่านแนวต้าน Trend line ขาลงขึ้นมาได้แล้วก่อนหน้า สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ อาจพิจารณาทยอยซื้อบางส่วน และเราประเมินแนวต้าน 1700 – 1710 จุด โดยกำหนดจุด Stop loss ที่ 1650 จุด แต่สำหรับนักลงทุนที่ทยอยซื้อต้นทุนต่ำก่อนหน้าแล้ว แนะนำ “ถือ” เนื่องจากเราคาดว่าภาวะการลงทุนในเดือน พ.ย. – ธ.ค. จะยังคง Sideway สร้างฐาน เพื่อรอการขยับไปใช้ Valuation ในปี 2562 ที่เบื้องต้นคาดว่ากำไรของบริษัทจดทะเบียนจะเติบโตได้ราว 8 – 10% YoY โดยเราประเมินว่าข้อมูลประมาณการฯ กำไรปี 2562 ภายหลังการรายงานผลประกอบการ 3Q61 จะเริ่มมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น หลังจากที่นักวิเคราะห์ทำการปรับปรุงประมาณการฯ
เราแนะนำเข้าซื้อสะสมหุ้นพื้นฐานดีกำไรเติบโต / มีสตอรี่การลงทุนที่ชัดเจน กลุ่มที่น่าสนใจได้แก่ i) กลุ่มธนาคารพาณิชย์ (กำไรพ้นจุดต่ำสุด + ดอกเบี้ยขาขึ้น) รู้ทันการลงทุน กับ KGI, สุโชติ ถิรวรรณรัตน์, BBL, SCB, KTB / ii) กลุ่มค้าปลีก (การบริโภคในประเทศฟื้น + ความเชื่อมั่นผู้บริโภคทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง) MBK, COM7, CPALL / iii) กลุ่มนิคมฯ (รับธีม EEC) AMATA, WHA / iv) กลุ่มวัสดุฯ (ความต้องการใช้วัสดุก่อสร้าง เช่น ปูนซีเมนต์ฟื้นตัวเด่น) (SCC, SCCC) และหุ้นแนะนำในพอร์ต Quantitative เราเลือก KTB, AMATA, CPF, ASK
โดย สุโชติ ถิรวรรณรัตน์
ผู้จัดการฝ่ายวิจัย บล.เคจีไอ(ประเทศไทย)