อันดับที่ 1 FSMART ผนึก Non Bank ขยายธุรกิจใหม่งบนิวไฮรอบ5ปี-ดัน‘ฟอร์ท เวนดิ้ง’เข้าเทรด
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส หรือ FSMART โดย “นายศิวพันธ์ รัตนวิโรจน์วงศ์”กรรมการ เผยว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างเจรจาพันธมิตร Non Bank เพื่อขยายธุรกิจใหม่ๆ คาดว่าจะเห็นความชัดเจนภายในต้นปี 62 รวมถึงเปิดกว้างเจรจาพันธมิตรรายใหม่ๆ เพื่อยกระดับธุรกิจให้เติบโตทำนิวไฮต่อเนื่องในทุกๆปีสำหรับไตรมาส 4/61 ผลงานจะเร่งตัวมากขึ้น จากการเพิ่มบริการใหม่อีก 6 บริการ อาทิ 1. เดือน ธ.ค.นี้ จะเริ่มให้บริการขายซิม มือถือของ AIS ผ่านตู้บุญเติม คาดจะเริ่มที่ 20,000 ตู้, 2.บริการเปิดบัญชีธนาคาร (บุ๊คแบงก์) ให้กับกลุ่มแบงก์, 3.ให้บริการจ่ายบิลโทรศัพท์, 4.บริการชำระเงินสมทบกองทุนประกันสังคมพร้อมกันนี้บริษัทอยู่ระหว่างพิจารณาโมเดลธุรกิจเพื่อรุกตลาดต่างประเทศ โดยจะเริ่มต้นที่ประเทศเมียนมา ส่วนรูปแบบการลงทุนนั้นมีความเป็นไปได้ 2 แนวทาง คือ 1. การขายตู้บุญเติม และ 2.การร่วมทุนกับพันธมิตรเพื่อรุกการให้บริการตู้บุญเติมในประเทศดังกล่าว ซึ่งคาดว่าจะเห็นความชัดเจนในระยะถัดไป
อันดับที่ 2 AP งบQ3 โตระเบิดจากช่วงเดียวกัน กูรูเชียร์ซื้อเก็งกำไร เป้าหมาย 9.60บ.
ผู้สื่อข่าว”มิติหุ้น”รายงานว่า บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ AP โดยฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง เผยว่า รายได้ไตรมาส3/61 คาดอยู่ที่ 6,801 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +37.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดย สัดส่วนแบ่งเป็น แนวราบ 65% และ คอนโดมิเนียม 35% โดยในส่วนของแนวราบทั้งยอดจองและยอดส่งมอบทำได้ดี ขณะที่คอนโดมิเนียมไม่มีโครงการคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จใหม่เริ่มส่งมอบ มีเพียงโครงการที่ต่อเนื่องจาก ไตรมาส2/61 เช่น Life อโศก Life ปิ่นเกล้า อัตราการทำกำไรขั้นต้นคาดที่ 34% ทรงตัวจากไตรมาสก่อน ขณะที่ส่วนแบ่งจาก JV ใน ไตรมาส3/61 คาดที่ 205 ล้านบาท ดังนั้นคาดกำไรสุทธิที่ 895 ล้านบาท โดยมีราคาเป้าหมายที่ 9.60 บาท แนะนำ ซื้อเก็งกำไร พร้อมทั้งBacklog ยังคงหนุนให้ทิศทางผลประกอบการยังสามารถเติบโตได้ในช่วง 3 ปีข้างหน้าและการจ่ายเงินปันผลปีละครั้งทำให้เราคาดว่าผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ 4.8% สูงกว่ากลุ่มที่มีการจ่ายปีละ 2 ครั้ง
อันดับที่ 3 BCP ไตรมาส 3/61 กำไรสุดพีค กลั่นเต็มกำลังการผลิต เป้าซื้อ 39 บ.
สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น หรือ BCP ผู้ประกอบการค้าปลีกน้ำมันและโรงกลั่น โดยแหล่งข่าวจากวงการอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาส 3/61 อัตรากำลังการกลั่นอยู่ในระดับ 115,000 – 116,000 บาร์เรลต่อวัน สูงกว่าไตรมาส 2/61 ที่มีกำลังการกลั่นอยู่ในระดับ 80,000 บาร์เรลต่อวัน เนื่องจากหยุดซ่อมบำรุงหน่วยกลั่นไป 45 วัน จะเป็นปัจจัยหนุนให้ผลประกอบการไตรมาส 3 ออกมาเติบโตได้ดีขึ้นเทียบกับไตรมาส2/61 และช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะเดียวกันจะบันทึกกำไรพิเศษจากการขายโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ (โซลาร์ฟาร์ม) ประเทศญี่ปุ่น จำนวน 2 โครงการ ได้แก่ โครงการ Nikaho และ Nagi ขนาดกำลังผลิตรวม 27.6 เมกะวัตต์ (MW)ส่วนแนวโน้มไตรมาส 4/61 คาดว่าค่าการกลั่นจะยังสูงต่อเนื่องจากความต้องการใช้น้ำมันดีเซลและน้ำมันอากาศยานที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่นของการใช้น้ำมัน สำหรับดีล OKEA ของนอร์เวย์คาดว่าจะแล้วเสร็จในพ.ย.นี้ ซึ่งจะให้ส่วนแบ่งกำไรเข้ามาตั้งแต่ปลายไตรมาส4/61 เป็นต้นไป โดยฝ่ายวิเคราะห์แนะนำ “ซื้อ” ให้ราคาพื้นฐาน 39 บาท
อันดับที่ 4 WIIK จ่อปิดดีลเทกฯธุรกิจน้ำประปา พ.ย.นี้ พร้อมลุ้นรับงานผลิตท่อใน EEC มูลค่า 500-1,000 ลบ.
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.วิค แอนด์ ฮุคลันด์ หรือ WIIK โดยแหล่งข่าววงการอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมแจ้งข่าวการเข้าซื้อกิจการ (เทกโอเวอร์) บริษัทผลิตน้ำประปา สัดส่วน 100% โดยใช้เงินลงทุนราว 300 ล้านบาท ภายในเดือนพ.ย. 61 นี้ โดยลักษณะธุรกิจเป็นการบำบัดน้ำเสียเพื่อใช้อุปโภคบริโภค มีอายุสัญญา 25 ปี และให้อัตราผลตอบแทนจากการลงทุน (IRR) ไม่น้อยกว่า 10% คาดรายได้ตลอดอายุสัญญาไม่ต่ำกว่า 2,500 ล้านบาท สำหรับแหล่งเงินลงทุนจะมาจากกระแสเงินสดในมือ และเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน ขณะที่แนวโน้มผลประกอบการทั้งปี 61 คาดรายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 15% จากปีก่อนที่ 1,211.94 ล้านบาท โดยปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างรอผลประมูลงานธุรกิจผลิตท่อชนิดพิเศษในโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) มูลค่าประมาณ 500 -1,000 ล้านบาท และอยู่ระหว่างเจรจารับงานผลิตท่อใต้ทะเลในประเทศแถบอาเซียน มูลค่ากว่า 500 ล้านบาท คาดทั้งหมดจะรู้ผลประมูลได้ในช่วงไตรมาส 4/61 นี้ และจะช่วยสนับสนุนงานในมือ (Backlog) เพิ่มขึ้น จากปัจจุบันที่มีอยู่ราว 771.44 ล้านบาท
อันดับที่ 5 CK กำไร Q3 มีแววทะยานทะลุ 100% หลังรับทรัพย์จาก BEM-CKP เต็มคำ
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ช.การช่าง หรือ CK โดย ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง เผยว่า แนวโน้มกำไรไตรมาส 3/61 จะอยู่ที่ 1,150 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 112% จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 84% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนแรงหนุนสำคัญจากส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนใน BEM และ CKP ที่มีรายการพิเศษเข้ามา CK มี Backlog ปัจจุบันไม่สูงนัก 5.5 หมื่นล้านบาท รองรับรายได้ประมาณปีเศษๆ และกำไร 9 เดือนแรกจะมากกว่าที่เราคาดหมายทั้งปี ทำให้ประมาณการปีนี้มีอัพไซด์ ในช่วงที่เหลือของปี 2561 และ ครึ่งแรกของปี 2562 คาดหวังจะมีงานประมูลของรัฐบาลออกมามากขึ้นร่วม 0.7-1 ล้านล้านบาท ช่วยเติม Backlog ให้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น โดยทางฝ่ายมองว่า CK มีจุดเด่นที่เป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้างขนาดใหญ่ และมีเงินลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานชั้นนำของประเทศ คือ BEM, CKP และ TTW ซึ่งมีการเติบโตและจะช่วยเพิ่มงาน ซึ่งมูลค่าเงินลงทุนจะมีมูลค่าถึง 60,383 ล้านบาท หรือ คิดเป็น 35 บาทต่อหุ้น ประเมินราคาเป้าหมายด้วยวิธี Sum of The Part เท่ากับ 31 บาท คงคำแนะนำ “ซื้อ”