มิติหุ้น- บริษัท สากล เอนเนอยี (จำกัด) มหาชน หรือ “SKE” หนึ่งในผู้นำธุรกิจด้านการให้บริการก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ รายงานรายได้ 9 เดือนเติบโตตามคาด 255 ล้านบาท คาดธุรกิจโรงไฟฟ้าชีวมวลแม่กระทิง ที่จังหวัดแพร่ เสร็จไตรมาส 3 ปี 2562 หนุนกำไรเพิ่ม
นายจักรพงส์ สุเมธโชติเมธา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สากล เอนเนอยี (จำกัด) มหาชน หรือ “SKE” เปิดเผยสำหรับผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรก ปี 2561 สิ้นสุด 30 กันยายน 2561 บริษัทฯมีรายได้รวม 255.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2560 มีรายได้ 247.3 ล้านบาท เนื่องจากปริมาณการอัดก๊าซที่เพิ่มขึ้น และในงวดนี้บริษัทฯมีกำไรสุทธิ 45.16 ล้านบาท ลดลงจากกำไรสุทธิ 55 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2560 ซึ่งเป็นผลมาจากค่าใช้จ่ายในการบริหารงานที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากค่าใช้จ่ายจ้างที่ปรึกษาเพื่อศึกษาการลงทุนหลายโครงการ ทั้งนี้ทางบริษัทฯยังสามารถรักษาโครงสร้างการเงินที่ดี โดยมีอัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) ที่ดีคือ 0.15 เท่า และมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ประมาณ 40% และอัตรากำไรสุทธิที่ประมาณ 18% แม้จะมีค่าใช้จ่ายในการจ้างที่ปรึกษาเพื่อการศึกษาการลงทุนในโครงการใหม่ เพื่อต่อยอดธุรกิจและมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจากการขยายกิจการ
“ ทางบริษัทฯ มีรายได้รวมเพิ่มขึ้น จากธุรกิจหลักคือผลิตและจำหน่ายก๊าซ NGV ซึ่งขยายตัวตามภาคขนส่งและอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ที่กำลังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ตามโครงการ EEC และการลงทุนภาคอุตสาหกรรม แม้จะได้รับผลกระทบบ้างจากการเปิดใช้ท่อก๊าซเส้นใหม่ของกลุ่มปตท. ขณะที่ราคาน้ำมันทรงตัวในระดับสูงทำให้ก๊าซ NGV ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงหลักของภาคขนส่งขนาดใหญ่ จะมีแนวโน้มการขยายตัวที่ดีในปีหน้า
นอกจากนี้บริษัทฯกำลังดำเนินการก่อสร้างธุรกิจโรงไฟฟ้าชีวมวลแม่กระทิง ที่จังหวัดแพร่ ซึ่งมีกำลังการผลิตไฟฟ้า 9.9 เมกะวัตต์ และมีสัญญาขายไฟ 8 เมกะวัตต์ กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ในอัตราเฉลี่ยที่ 4.62 บาท ต่อหน่วยตลอดอายุสัญญา 20 ปี ซึ่งนับเป็นอัตราการขายไฟสำหรับโรงไฟฟ้าชีวมวลที่สูงสุดใน ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จไตรมาส 3 ปี 2562 ทั้งนี้บริษัทฯมั่นใจว่า โครงการใหม่นี้ จะสร้างกระแสรายได้ที่ต่อเนื่องและมั่นคง ช่วยผลักดันให้ผลประกอบการของบริษัทฯเติบโตอย่างมั่นคงตามกลยุทธ์หลักของ SKE
SKE มุ่งเน้นดำเนินธุรกิจด้านพลังงานอย่างครบวงจร ซึ่งธุรกิจหลัก คือ ประกอบธุรกิจบริการอัดก๊าซ NGV ให้รถขนส่งก๊าซธรรมชาติของ บริษัท ปตท. จำกัด ซึ่งปัจจุบันมีสถานีก๊าซธรรมชาติของบริษัท 2 สถานี คือ 1) สถานีก๊าซธรรมชาติหลักปทุมธานี 2) สถานีก๊าซธรรมชาติหลักสระบุรี ซึ่งมีกำลังการอัดก๊าซสูงถึง 750 ตัน/วัน บริษัทฯมีผลประกอบการที่เติบโตอย่างมั่นคงและมีรายได้สม่ำเสมอมาโดยตลอดและรักษาปริมาณการอัดก๊าซธรรมชาติมากกว่าปริมาณขั้นต่ำตามสัญญาธุรกิจสถานีบริการก๊าซธรรมชาติหลักเอกชนที่ทำกับกลุ่มปตท.ซึ่งมีระยะเวลาสัญญานานถึง 20 ปี จะทำให้บริษัทฯมีผลประกอบการที่ขยายตัวอย่างมีนัยยะและบริษัทฯมีพื้นฐานดีและการบริหารต้นทุนที่ดี เชื่อว่าตั้งแต่ไตรมาส 3 เป็นต้นไปจะมีรายได้ กำไรที่ดีขึ้น และผลตอบแทน แก่ผู้ถือหุ้นที่เติบโตอย่างมั่นคง
www.mitihoon.com