ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ. เอสไอเอสบี หรือ SISB ดำเนินธุรกิจโรงเรียนนานาชาติ โดยนาย สมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บล.ฟินันเซียไซรัส ในฐานะที่ปรึกษาการเงินและผู้รับประกันการจัดจำหน่าย เปิดเผยว่า ได้กำหนดราคาขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ที่ 5.20 บาท/หุ้น เปิดให้จองซื้อ 22-23 และ 26 พ.ย.61 นี้ พร้อมเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) วันที่ 29 พ.ย.นี้
“ราคาหุ้นที่ 5.20 บาท กำหนดโดยการสำรวจความต้องการซื้อของนักลงทุนสถาบัน (Book Building) โดยคิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรต่อหุ้น (P/E) ที่ 59.59 เท่า ต่ำกว่าตลาด mai ที่มี P/E มากกว่า 70 เท่า” นาย สมภพ กล่าว
ทั้งนี้ หุ้นIPO ได้แบ่งเป็นเสนอขายนักลงทุนสถาบัน 110 ล้านหุ้น ขณะที่กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัท 26 ล้านหุ้น และที่เหลือจัดสรรให้กับประชาชนทั่วไป
โดย SISB เป็นหุ้นธุรกิจการศึกษาบริษัทแรกของตลาดหลักทรัพย์ฯ ขายหุ้นไอพีโอ 260 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท โดยจะอยู่ในหมวดบริการของ mai ส่วนเงินระดมทุน 1,299.06 ล้านบาท จะนำไปชำระหนี้เงินกู้ยืมสถาบันการเงิน 600 ล้านบาท จะทำให้ปลอดภาระหนี้ จากปัจจุบันที่มีอัตราหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ย 2.97 เท่า และจะลดภาระดอกเบี้ยจ่ายกว่า 30 ล้านบาทต่อปี
เดิมที บริษัทเตรียมเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) แต่ได้เปลี่ยนมาซื้อขายในตลาดMAI เนื่องด้วยบริษัทได้ปรับเปลี่ยนมาตรฐานการบันทึกบัญชีใหม่เป็น TFRS15 ซึ่งเหมาะสมกับธุรกิจมากกว่า ส่งผลย้อนหลังทำให้กำไรลดลง ต่ำกว่าเกณฑ์ของ SET โดยหลังปรับใช้ TFRS15 กำไรย้อนหลัง 3 ปี (2558-2560) ของบริษัทลดลงเหลือ 50.43 ล้านบาท, 69.83 ล้านบาท และ 17.92 ล้านบาท ตามลำดับ ลดลงจากมาตรฐานบัญชีเดิมมีกำไรอยู่ที่ 76.51 ล้านบาท, 84.73 ล้านบาท และ 59.60 ล้านบาท ตามลำดับ
ทั้งนี้ เกณฑ์การเข้า SET จะต้องมีกำไรสุทธิในระยะเวลา 2 ปี หรือ 3 ปี ล่าสุดก่อนยื่นคำขอรวมกันมากกว่าหรือเท่ากับ 50 ล้านบาท และปีล่าสุดก่อนยื่นคำขอมีกำไรสุทธิมากกว่าหรือเท่ากับ 30 ล้านบาท อย่างไรก็ตามงวด 9 เดือนแรกของปีนี้ตามมาตรฐานบัญชี TFRS15 บริษัทมีกำไรสุทธิ 71.54 ล้านบาท เติบโตกว่า 860% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ส่วนภาวะหุ้นไอพีโอต่ำจองในช่วงนี้ เกิดจากความเชื่อมั่นของนักลงทุนลดลง ทำให้มีแรงเทขายตั้งแต่ตอนเข้าซื้อขายวันแรก ทั้งนี้ไม่กังวลกับภาวะดังกล่าว เนื่องจาก SISB เป็นธุรกิจใหม่ มีศักยภาพการเติบโตสูง เหมาะสมกับการลงทุนระยะยาว
ด้านนายยิว ฮอค โคว ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SISB เผยว่า จากการโรดโชว์ 4 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่, สงขลา, ชลบุรี และขอนแก่น ปรากฏว่านักลงทุนให้ความสนใจจำนวนมาก เนื่องจากเป็นธุรกิจใหม่ของตลาดหุ้นไทย ที่สำคัญนักลงทุนสถาบันมีความต้องการเกินกว่าหุ้นที่เสนอขายถึง 13.5 เท่า โดยส่วนภาพรวมธุรกิจมั่นใจจะเติบโตแข็งแกร่งในทุกปี
www.mitihoon.com