TWZ มั้นใจเพิ่มทุนผ่านฉลุย หวังนำเงินลุยโปรเจ็กต์ไฟฟ้า-รุกธุรกิจใหม่เต็มสูบ

507

มิติหุ้น – TWZ มั่นใจผถห.เดิมใช้สิทธิหุ้นเพิ่มทุนเกลี้ยง หวังนำเงินรุกธุรกิจไฟฟ้า-ลุยธุรกิจใหม่ปีหน้า ปั้นรายได้ปีนี้แตะ3.5พันลบ.-กำไรโตกระฉูด หลังอัพสินค้ามาร์จิ้นสูง-บริหารต้นทุนแจ่ม

ผู้สื่อข่าว”มิติหุ้น”รายงานว่า บริษัท ทีดับบลิวแซด คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือTWZ โดย นายพุทธชาติ รังคสิริ ประธานกรรมการ เปิดเผยว่า จากที่บริษัทฯได้เพิ่มทุนจดทะเบียนจาก625.908ล้านบาทเป็น1,648.224ล้านบาทด้วยการออกหุ้นสามัญจำนวน 10,223.165ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไวหุ้นละ0.10บาทคิดเป็น1,022.316ล้านบาทเสนอขายให้กับผู้ถือหุ้นเดิมในอัตราส่วน3หุ้นเดิมต่อ2หุ้นเพิ่มทุน ราคาหุ้นละ 0.12 บาท โดยผู้ถือหุ้นใช้สิทธิจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนจะได้รับใบสำคัญแสดงสิทธิจะซื้อหุ้นสามัญของTWZ (วอร์แรนท์ TWZ-W5) จำนวน1 หน่วยต่อ 1 หุ้นเพิ่มทุน โดยไม่ต้องจ่ายค่าวอร์แรนท์นี้แต่อย่างใด โดยTWZ-W5 มีอายุ 1 ปี สามารถใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญ TWZ ได้ในสัดส่วน TWZ-W5 1 หน่วย ซื้อหุ้นสามัญได้ 1 หุ้น ในราคาเพียงหุ้นละ 0.10 บาท  พร้อมกำหนดกำหนดวันจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนบวกวอร์แรนท์ ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายนถึง 7 ธันวาคม 2561

ทั้งนี้บริษัทมั่นใจว่าผู้ถือหุ้นเดิมจะใช้สิทธิครบจำนวน ขณะเดียวกันหากไม่ครบทางผู้ถือหุ้นรายใหญ่พน้อมที่จะรับไว้ทั้งหมดเต็มจำนวนต่อไป

โดยเงินเพิ่มทุนจะนำไปลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานขยะอุตสาหกรรม เป็นโรงไฟฟ้าใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีพลาสมา จำนวน 1-3 โรง มีกำลังการผลิตโรงละไม่เกิน 10 เมกะวัตต์ อัตรารับซื้อไฟฟ้า (Feed in Tariff หรือ FIT) ที่ 7.78 บาทต่อหน่วย โดยมีระยะเวลาตามสัญญาซื้อขายไฟจำนวน 20 ปีมูลค่าการลงทุนในสินทรัพย์ 3,000-4,000 ล้านบาท จากการประเมินมูลค่ากิจการสุทธิ (Equity Value) เบื้องต้นจะอยู่ที่ประมาณโรงละ 700-1,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นการต่อยอดจากธุรกิจพลังงานทดแทนที่ก่อนหน้านี้ TWZ ได้เข้าลงทุนในโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน กำลังผลิต 5 เมกะวัตต์ โดยเป็นการลงทุนผ่าน บริษัท เกียร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ซึ่ง TWZ ถือหุ้นในสัดส่วน 100% พร้อมทั้งคาดว่าจะเริ่มดำเนินการขายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์(COD) ได้ภายในปลายปี62 และรับรู้รายได้เข้ามาได้ทันที

ขณะเดียวกันยังใช้เงินอีก100ล้านบาท มาลงทุนในธุรกิจใหม่ได้แก่ พัฒนาซอฟแวร์ ซึ่งจะเริ่มดำเนินการได้ต้นปี62 ซึ่งขณะนี้อนู่ระหว่างเตรียมตัวเพื่อใช้งานจริง

สำหรับภาพรวมธุรกิจปีนี้มั้นใจว่ารายได้จะแตะ 3,500ล้านบาท พร้อมด้วยกำไรที่เติบโตอย่างโดดเด่น จากการขยายเฮาส์แบรนด์มือถือเพิ่มขึ้นและเจาะตลาดกลางให้สูงขึ้น เพื่อตอบสนองลูกค้าในปัจจุบันซึ่งได้มาร์จิ้นที่ดีเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังบริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

ส่วนปีหน้าคาดรายได้จะทรงตัวแต่กำไรจะเติบโตราว5% จากการจำหน่ายสิตทรัพย์ประเภทอสังหาฯทั้งหมดรวมมูลค่าราว800-900ล้านบาท และธุรกิจใหม่ประเภทซอฟแวร์เริ่มดำเนินการ อีกทั้งธุรกิจจำหน่ายมือถือยังขยายตัวได้ดีอย่างต่อเนื่อง

www.mitihoon.com