ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) หรือ IFS มองโอกาสผลประกอบการปี 2561 ทำสถิติสูงสุด โดยแหล่งข่าวจากวงการอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ภาพรวมยอดปล่อยสินเชื่อไตรมาส 4/2561 จะเห็นการขยายตัวค่อนข้างโดดเด่น หลังจาก IFS เริ่มผ่อนคลายความเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อมาตั้งแต่ช่วงไตรมาส 3/2561 รวมทั้งยังเป็นช่วงไฮซีซั่นที่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีแต่ละรายต้องการใช้เงินทุนหมุนเวียนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งคาดว่าปริมาณธุรกิรรมแฟกตอริ่งปี 2561 จะทำได้มากกว่าเป้าหมายที่ IFS ตั้งไว้ที่ 3.6 หมื่นล้านบาท
ขณะที่ตัวเลขหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL) เริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้น ซึ่งจะช่วยให้ IFS มีค่าใช้จ่ายในการตั้งสำรองหนี้ลดลง โดยคาด NPL ปีนี้จะอยู่ในระดับ 3.5-3.6% ถือเป็นปัจจัยบวกต่อกำไรสุทธิไตรมาส 4/2561 ที่จะเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาส 3/2561 ที่มีกำไรสุทธิ 48.25 ล้านบาท ซึ่งจะหนุนให้กำไรสุทธิปี 2561 ของ IFS ทำสถิติสูงสุดครั้งใหม่ หลังจากในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2561 IFS มีกำไรสุทธิแล้วเกือบ 130 ล้านบาท
“IFS มีลุ้นที่จะเห็นกำไรปี 2561 ทำนิวไฮ เพราะช่วงครึ่งปีแรก IFS ค่อนข้างระวังการอนุมัติสินเชื่อเพราะกลัว NPL ส่งผลให้กำไรช่วง 6 เดือนแรกโตไม่มาก แต่พอเข้าไตรมาส 3/61 ที่เริ่มลดความเข้มงวดลงบ้างทำให้ยอดสินเชื่อและกำไรโตชัดเจน ซึ่งหากไตรมาส 4/61 ไม่มีอะไรผิดคาดก็น่าจะเห็นกำไรเติบดตค่อนข้างสูงเพราะเป็นไฮซีซั่นสินเชื่อด้วย โดยคาดว่าปริมาณธุรกรรมแฟกตอริ่งของ IFS ในปีนี้จะจบสูงกว่าเป้าที่ 3.6 หมื่นล้านบาท” แหล่งข่าว กล่าว
ด้านบทวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เอเซียพลัส ระบุว่า ธุรกิจหลักของ IFS ในปี 2561 ยังเติบโตค่อนข้างดี ตามความต้องการสินเชื่อแฟคตอริ่งภาคเอกชนที่เป็นลูกค้าหลัก ภายใต้เป้าหมายมูลค่ารับซื้อของลูกหนี้การค้าสำหรับธุรกิจแฟคตอริ่งปี 2561 เติบโตต่อเนื่องอีกราว 10-15% ต่อปี โดยฝ่ายวิจัยยังคงแนะนำ “ซื้อ” IFS ราคาเป้าหมาย 3.54 บาท คาดกำไรสุทธิปี 2561-2562 เติบโต 4.9% และ 11.4% ตามลำดับ และ IFS มีจุดเด่นเรื่องเงินปันผลที่ประเมินว่าจะเฉลี่ยสูงราว 5% ต่อปี
www.mitihoon.com
