นายองอาจ ปัณฑุยากร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออลล่า จำกัด (มหาชน) หรือ ALLA เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้จัดทำแผนธุรกิจปี 2562 ตั้งเป้าหมายรายได้คาดว่าจะเติบโตราว 15% เนื่องจากประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจในประเทศจะกระเตื้องขึ้น การลงทุนของภาครัฐและเอกชนจะฟื้นตัวภายหลังการเลือกตั้ง รวมถึงเห็นความคืบหน้าของโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก(EEC) ซึ่งจะสนับสนุนให้เกิดความต้องการใช้อุปกรณ์ขนถ่ายวัสดุในโรงงานอุตสาหกรรม ในส่วนของงานเครนและรอกไฟฟ้า อุปกรณ์ช่องโหลดสินค้า และประตูอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัทฯ
ในปี 2562 บริษัทฯจะเดินหน้าเข้าร่วมประมูลงานในอุตสาหกรรมหลักของประเทศ ทั้งในส่วนของโรงไฟฟ้า รถไฟฟ้า และอุตสาหกรรมปิโตรเคมี เพื่อคาดหวังเพิ่มมูลค่างานในมือ (Backlog) ให้เพิ่มขึ้นจากสิ้นไตรมาส 3/2561 มีจำนวน412 ล้านบาท ซึ่งมูลค่างานดังกล่าวจะทยอยรับรู้ตั้งแต่ไตรมาส 4/2561 ไปจนถึงปี 2562
ขณะเดียวกันในส่วนของธุรกิจระบบขนถ่ายสินค้าอัตโนมัติ “Automate Warehouse” นั้น เป็นไปในทิศทางที่ดี และมีความต้องการสูงสอดคล้องกับทิศทางการเติบโตของธุรกิจโลจิสติกส์ โดยเฉพาะภายหลังได้รับความไว้วางใจจากบริษัท ซีพีออล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL ให้เข้าไปดูแลงานระบบจัดการคลังสินค้า (Warehouse System Provider) โดยคาดว่างานจาก CPALL จะมีเข้ามาอย่างต่อเนื่องตามการขยายตัวของร้านสะดวกซื้อ7-11
สำหรับความคืบหน้าในการจัดตั้งสำนักงานตัวแทนในประเทศอินโดนีเซีย คาดว่าจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในปี 2561 นี้ และเริ่มส่งตัวแทนผู้บริหารคนไทยเข้าไปดูแลตั้งแต่ต้นปี 2562 ทำให้จะเริ่มเห็นผลเชิงบวกตั้งแต่ต้นปีหน้าเป็นต้นไป
ขณะที่งวด 9 เดือนแรกของปี 2561 บริษัทฯมีกำไรสุทธิ 43.86 ล้านบาท เติบโต 16.21% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2560 ที่มีกำไรสุทธิ 37.74 ล้านบาท โดยมีรายได้ในงวด 9 เดือนแรกของปี 2561 ที่ 450 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 2% และมีอัตรากำไรสุทธิที่ระดับ 14% อัตราหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ในระดับต่ำเพียง 0.25 เท่า
www.mitihoon.com