ตลอดปี 61 หุ้นโลกและหุ้นไทย ไหลลงมาตลอดทั้งปี ลดลงเฉลี่ย 12-20% เพราะพิษของสงครามการค้า, ธนาคารกลางสหรัฐขึ้นดอกเบี้ย, เศรษฐกิจทั่วโลกเริ่มชะลอตัว, กระแสเงินลงทุนไหลออก (Capital outflow) จากประเทศ Emerging Market, Brexit และการก่อการร้าย ปัญหาหนี้ท่วมของอิตาลี-สเปน-กรีซ รวมทั้งกระแสท่องเที่ยวคนจีนลดมาเที่ยวไทย ปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำหนัก ข้าว-อ้อย-มัน-ยางพารา-ปาล์ม และประมงไทยถูกยุโรปบีบ ฉุดเศรษฐกิจไทยและกำลังซื้อคนไทยร่วงลงมาตลอดทั้งปี
หุ้นไทยร่วงลงจาก 1,820 จุด ลงมาเหลือเพียง 1,600-1,580 จุด ลดลง 12% และจะร่วงลงต่อได้อีก คาดปี 62 หุ้นไทยอาจลงต่อได้ถึง 1,550-1,500 จุด แม้จะมีเงินทุนเข้ามาซื้อ LTF, RMF ช่วงปลายปีบ้าง แต่คงช่วยไม่ได้มากนัก
ข่าวการเลือกตั้ง 24 ก.พ. 62 ควรจะดึงดัชนีหุ้นเด้งขึ้นมาบ้าง แต่กลับแทบไม่ได้ช่วยอะไรเลย แม้ปลดล็อคทางการเมืองแล้ว แต่ไม่ช่วยดันหุ้นขึ้นมาบ้างเลย ถ้าผลเลือกตั้งออกมาไม่ดี อาจกลายเป็นผลลบต่อหุ้นหนักขึ้นไปอีก
ปีหน้า 2562 มีแนวโน้มสำคัญ ดังนี้
1.เศรษฐกิจโลกจะชะลอตัวลง มากหรือน้อย อยู่ที่ FED จะขึ้นดอกเบี้ยอีกมากน้อยแค่ไหน? ถ้าขึ้นมาก ยิ่งแย่ ทุกประเทศทั่วโลก มีแนวโน้ม GDP จะลดลง 0.5-1.5%
2.Trade War สหรัฐกับจีน จะขยายตัวบานปลายออกไปอีกแค่ไหน? โอกาสยุติศึกมีน้อย เพราะ US ต้องการเตะตัดขาจีนไม่ให้ก้าวขึ้นมาเป็นเบอร์ 1 โลกแทนสหรัฐ ผลกระทบด้านลบต่อเศรษฐกิจ การเงินโลก จะมาเต็มๆ ซึ่งจะส่งผลเสียหายต่อทุกประเทศ ทุกวงการค้าและอุตสาหกรรม
3.ตลาดหุ้นจะทรุดหนักลงอีก บางคนวิเคราะห์ถึงขั้น ตลาดอาจเกิดวิกฤติ Crisis and Crash ไม่มี Soft Landing 2019 เป็นปีอันตรายต่อเศรษฐกิจโลก
4.น้ำมันจะยังร่วงลงต่อ ทะลุ 50$ ลงมา 40-45$ เพราะ Demand การใช้น้ำมันของโลกจะลดลงมาก เนื่องจากเศรษฐกิจชะลอตัวลงมาก จะลดกำลังผลิตยังไง
5.ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ของโลกจะลดลงต่อไป ประเทศ EM จะลำบาก เพราะรายได้จากการขายสินค้าจะลดลง
6.ค่าเงิน US Dollar ยังคงแข็งแกร่งต่อไป แต่ถ้าเกิด Financial Crisis ในอเมริกา จากปัญหาหนี้ท่วม 22 ล้านล้าน$ ค่าเงินดอลลาร์ก็อาจจะอ่อนลงมาได้เหมือนกัน โดยรวม เงินเยน ญี่ปุ่น, เงิน Euro, เงิน Swiss Franc ยังดีอยู่ เงินปอนด์ อังกฤษ อาจจะลดลงอีก เพราะ Brexit ไม่มีทางออก
www.mitihoon.com