ผู้ถือหน่วยไฟเขียว HREIT ลงทุนเพิ่มครั้งที่ 2 มูลค่าไม่เกิน 477 ล้านบาท ชูจุดเด่นทรัพย์เพิ่มทุน OR 100% และตั้งอยู่ศูนย์กลางโลจิสติกส์ เชื่อมต่อภาคกลาง สู่ภาคอีสาน

48

มิติหุ้น-บริษัท ดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล รีท แมนเนจเม้นท์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ของทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เหมราช (HREIT) ปลื้ม ผู้ถือหน่วยไฟเขียวลงทุนเพิ่มครั้งที่ 2 เพื่อลงทุนในสิทธิการเช่าโรงงานสำเร็จรูปของ WHA GROUP มูลค่าไม่เกิน 477 ล้านบาท จำนวน 9 ยูนิต คิดเป็นพื้นที่รวม 15,916 ตารางเมตร  ด้านกรรมการผู้จัดการ “ เภรี อิชยพฤกษ์ ” ระบุทรัพย์สินที่จะลงทุนตั้งอยู่ในเขตประกอบการอุตสาหกรรม ดับบลิวเอชเอ สระบุรี จัดเป็นเส้นสำคัญของเศรษฐกิจด้านอุตสาหกรรม และโลจิสติกส์ ที่เชื่อมระหว่างภาคกลาง กับภาคอีสาน คาดเข้าลงทุนได้ภายในช่วงสิ้นปีนี้ หนุนขนาดทรัพย์สินเพิ่มขึ้น แตะระดับ 9,700 ล้านบาท

นายเภรี อิชยพฤกษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล รีท แมนเนจเม้นท์ จำกัด  ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ของทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เหมราช (HREIT) เปิดเผยว่า  ที่ประชุมวิสามัญครั้งที่ 1/2561 ของผู้ถือหน่วยทรัสต์ ของกองทรัสต์ HREIT มีมติอนุมัติการลงทุนเพิ่มครั้งที่ 2 เพื่อลงทุนในสิทธิการเช่าโรงงานสำเร็จรูปของ WHA GROUP จำนวนไม่เกิน 477 ล้านบาท ระยะเวลา 30 ปี และต่ออายุการเช่าได้อีก 30 ปี รวมทั้งสิ้น 60 ปี ประกอบด้วยอาคารโรงงานสำเร็จรูปและสิ่งปลูกสร้างอื่นๆ ของกลุ่ม WHA GROUP ประกอบด้วย

1. อาคารโรงงานแบบ Attached Building จำนวน 8 ยูนิต มีพื้นที่อาคารประมาณ 11,196 ตารางเมตร 2. อาคารโรงงานแบบ Detached Building จำนวน 1 ยูนิต มีพื้นที่อาคารประมาณ 4,720 ตารางเมตร รวมทั้งหมด 9 ยูนิต คิดเป็นพื้นที่รวม 15,916 ตารางเมตร ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่จังหวัดสระบุรี โดยมีผู้เช่าที่หลากหลายอุตสาหกรรม และทรัพย์สินดังกล่าวมีผู้เช่าเต็ม 100%

สำหรับความโดดเด่นของทรัพย์สินที่กองทรัสต์ HREIT เข้าไปลงทุนนั้น เป็นการลงทุนในสิทธิการเช่าที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างอาคารโรงงาน สำนักงาน และสิ่งปลูกสร้างอื่นๆ ที่ตั้งอยู่บนที่ดินนั้น เป็นระยะเวลา 30 ปีนับจากวันเริ่มต้นระยะเวลาการเช่า และสิทธิในการต่ออายุสัญญาเช่าทรัพย์สินอีก 30 ปี ในเขตประกอบการอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ สระบุรี ซึ่งเป็นเส้นทางสำคัญของเศรษฐกิจด้านนิคมอุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ ที่เชื่อมระหว่างภาคกลางกับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และยังมีความสำคัญต่อภาคอุตสาหกรรมลำดับต้นๆ ของประเทศ คาดว่าจะสามารถเข้าลงทุนได้ภายในช่วงสิ้นปีนี้

กรรมการผู้จัดการกองทรัสต์ HREIT กล่าวเพิ่มเติมว่า ภายหลังจากการลงทุนในทรัพย์สินเพิ่มเติมในครั้งนี้ จะทำให้อัตราการเช่ารวมเพิ่มสูงขึ้น กระจายทำเลที่ตั้งให้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น โดยทรัพย์สินเดิมที่อยู่ในกองทรัสต์ HREIT จะอยู่ในทำเลที่ได้รับการส่งเสริมจากรัฐบาลภายใต้นโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ได้แก่ ชลบุรี ระยอง รวมถึง ประเภทอุตสาหกรรมที่กระจายตัว (Diversification) มากขึ้นอีกด้วย

สำหรับการลงทุนเพิ่มเติมครั้งที่ 2 ในครั้งนี้ เป็นการเพิ่มโอกาสให้กับผู้ถือหน่วยได้ผลตอบแทนที่ดีในอนาคต เพราะกองทรัสต์ HREIT ได้ใช้เงินทุนจากการกู้ยืมจำนวนไม่เกิน 420 ล้านบาท และเงินสดภายในของกองทรัสต์อีกไม่เกิน 80 ล้านบาท รวมเป็นเงินลงทุนทั้งสิ้น ไม่เกิน 500 ล้านบาท โดยที่ผู้ถือหน่วยเดิมไม่ต้องลงทุนเพิ่มแต่อย่างใด ซึ่งภายหลังการเข้าซื้อทรัพย์ จะทำให้กองทรัสต์ HREIT ขนาดทรัพย์สินเพิ่มขึ้น เป็นประมาณ 9,700 ล้านบาท และมีพื้นที่ให้เช่ารวมทั้งสิ้น 332,505 ตารางเมตรอีกด้วย ซึ่งผู้ถือหน่วยจะได้รับผลตอบแทนจากปัจจัยบวกดังกล่าวอย่างสม่ำเสมอ และต่อเนื่องในระยะยาว

นอกจากนี้ กองทรัสต์ HREIT ยังได้รับการจัดอันดับเครดิตองค์กรจาก ทริสเรทติ้ง ที่ระดับ “BBB+” ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงการที่กองทรัสต์ HREIT มีกระแสรายรับที่สม่ำเสมอจากสัญญาเช่าและบริการ รวมถึงการได้รับการสนับสนุนที่เข้มแข็งจาก บมจ. ดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล ดีเวลลอปเมนท์ (อันดับเครดิต “A-/Stable”) ในฐานะสปอนเซอร์ของกองทรัสต์ HREIT อีกทั้ง กองทรัสต์ HREIT มีแผนที่จะออกหุ้นกู้เพื่อจะป้องกันความเสี่ยงของดอกเบี้ยขาขึ้นในอนาคตอีกด้วย

www.mitihoon.com