อันดับที่ 1 GPSC ลุ้นบอร์ด กกพ. ถกพรุ่งนี้ พิจารณาอีกรอบ หลังยื่นปรับเงื่อนไขใหม่ขอซื้อGLOW
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า แหล่งข่าวจากคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการ(บอร์ด กกพ.)พรุ่งนี้ (26ธ.ค.) เตรียมพิจารณากรณีการยื่นเรื่องของบริษัท โกลบอล ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC ที่จะรวมกิจการกับบริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด หรือ GLOW อีกครั้ง หลังจากเมื่อวันที่ 19 ธ.ค.ที่ผ่านมา GPSC ได้ยื่นเอกสารกลับเข้ามายัง กกพ. เพื่อขออนุมัติการเข้าซื้อหุ้นโกลว์ ภายใต้เงื่อนไขใหม่ โดย กกพ.จะต้องพิจารณาว่า ข้อเสนอที่GPSC ยื่นมาใหม่นั้นขัดกับหลักการที่ กกพ.เคยพิจารณาไปแล้วหรือไม่ ซึ่งจะยังอยู่บนเงื่อนไขสำคัญ คือ จะต้องไม่เข้าข่ายลดการผูกขาดการแข่งขันในพื้นที่ และหากไม่ขัดต่าหลักการดังกล่าวแล้วก็สามารถอนุมัติการควบรวมกิจการดังกล่าวได้
อันดับที่ 2 “ออมสิน” เตรียมแจกของขวัญปีใหม่ เล็งคืนดอกเบี้ย – คลอดสินเชื่อแรงงาน
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า ธนาคารออมสิน โดยนายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคาร เปิดเผยว่า ธนาคารได้มีการเสนอเรื่องไปยังกระทรวงการคลังเพื่อขออนุมัติแคมเปญพิเศษเพื่อมอบแก่ลูกค้าในช่วงเทศกาลปีใหม่ ซึ่งจะมีทั้งในเรื่องการคืนดอกเบี้ยเงินกู้ให้กับลูกค้าที่มีรายได้น้อย ซึ่งธนาคารได้มีการยื่นเรื่องไปเมื่อวันที่ 5-6 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยต้องรอให้กระทรวงการคลังจะนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เพื่ออนุมัติต่อไป เบื้องต้นธนาคารได้กำหนดคุณสมบัติของลูกค้าที่จะได้รับดอกเบี้ยคืนนั้น จะต้องเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีวงเงินสินเชื่อไม่เกิน 2 แสนบาทต่อราย ซึ่งธนาคารมีลูกค้ากลุ่มนี้อยู่มากกว่า 1 ล้านราย แต่จะคัดเลือกเฉพาะลูกค้าที่มีวินัยทางการเงิน และมีการผ่อนชำระสินเชื่อตรงตามกำหนด 12 งวด ซึ่งลูกค้ากลุ่มนี้จะได้รับการคืนดอกเบี้ยจากธนาคาร
อันดับที่ 3 เมย์แบงก์ กิมเอ็ง คาด Q1/62 ช่วงแห่งความคาดหวัง ประเมิน SET เคลื่อนไหวในกรอบ 1,550-1,750 จุด
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ. หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง โดยนายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ คาดการณ์ภาพรวมการลงทุนในช่วงไตรมาส 1/62 คาดตลาดยังคงแกว่งผันผวนในกรอบแนวต้าน 1,750 จุด และแนวรับ 1,550 จุด โดยปัจจัยขับเคลื่อนมาจาก 3 ปัจจัย ได้แก่ 1.นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ และการลงทุนจากภาครัฐฯ 2.ความคาดหวังก่อนการเลือกตั้ง และ 3.โอกาสที่แนวโน้มดอกเบี้ยสหรัฐฯ จะปรับขึ้นช้ากว่าคาด ขณะที่ประเด็นที่ยังคงเป็นปัจจัยกดดันหลัก ยังคงเป็นเรื่องสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน (Trade war) ซึ่งหากยืดเยื้อต่อเนื่อง อาจส่งผลให้ภาพรวมเศรษฐกิจโลกปีหน้ามี downside มากขึ้นจากคาดการณ์ปัจจุบัน รวมถึงการยกเลิก QE ของธนาคารกลางต่างๆ ทั่วโลก เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่จะทำให้เม็ดเงินสภาพคล่องส่วนหนึ่งหายไป
อันดับที่ 4 โบรกเฟ้น 5 หุ้นน่าช้อป Dividend พุ่งแรง CPT หรูสุดปันผล 20%
มิติหุ้น-จากภาวะตลาดหุ้นที่เข้าสู่ภาวะตลาดหมีหลังดัชนีหลุด 1,600 จุดลึกสุดที่ 1,556.51 จุดจากปัจจัยต่างประเทศกดดันโดยเฉพาะราคาน้ำมันที่กดดันหุ้นไทยและหุ้นโลก และ government shutdown ด้านบทวิเคราะห์ บล.เออีซี ได้ออกบทวิเคราะห์ หุ้นที่ Low Valuation และน่าเข้าลงทุนหากดูจากพีอีที่ต่ำกว่า 10 เท่า มูลค่าหุ้นตามบัญชี(P/B) น้อยกว่า 1 เท่า และที่สำคัญอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield (%))มากกว่า 5 % มีหุ้นที่น่าลงทุนถึง 13 ตัว โดยมีหุ้นที่มีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงที่สุด TOP 5 คือ 1.CPT หรือ บมจ.ซีพีที ไดร์ แอนด์ เพาเวอร์ ธุรกิจขายตู้ไฟฟ้า มีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงสุดที่ 20.59 % มีพีอี 8.56 เท่า ส่วนมูลค่าหุ้นตามบัญชีเพียง 0.62 เท่า
อันดับที่ 5 SIRI ปี 62 ลุยออกหุ้นกู้ต่อเนื่อง หลังจากปี 61 ออกไปแล้ว 13,500 ลบ. หวังล็อกต้นทุนการเงิน รับดอกเบี้ยขาขึ้น
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ. แสนสิริ หรือ SIRI โดยนายวันจักร์ บุรณศิริ ประธานผู้บริหารสายงานการเงินและสนับสนุนธุรกิจ เปิดเผยว่า ในปี 2561 เป็นปีที่บริษัทสามารถบริหารต้นทุนทางการเงินได้ดี โดยในปีนี้สามารถระดมทุนด้วยการออกหุ้นกู้จำนวน 4 ครั้ง รวมเป็นเงินทุนที่ได้รับจากการระดมทุนทั้งสิ้น 13,500 ล้านบาท ล่าสุด ปิดการขายหุ้นกู้จำนวน 2,500,000 หน่วย ผ่านสาขาของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB และธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด(มหาชน) หรือ SCB ที่ได้รับการตอบรับดีขายหมดเต็มจำนวนในเวลาอันรวดเร็ว นับเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับความเชื่อมั่นของนักลงทุนในภาพรวมธุรกิจของบริษัทที่ตั้งเป้ายอดขายสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปีนี้ และยังเป็นสัญญาณที่ดีของการตอบรับการออกหุ้นกู้ล็อตใหม่ในปีหน้า สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนทั้งหมดนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน
