ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ผลิตไฟฟ้า หรือ EGCO ผู้ประกอบการโรงไฟฟ้ารายใหญ่ โดยนายจักษ์กริช พิบูลย์ไพโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าหมายกำไรจากการดำเนินงานปี 62 เติบโต 6% แม้ปีนี้จะทำได้พลาดเป้าหลังจากได้ขายโรงไฟฟ้ามาซินลอค ประเทศฟิลิปปินส์ แต่ปีหน้าจะรับส่วนแบ่งกำไรจากการจะเข้าลงทุน 49% ในโรงไฟฟ้า Paju ขนาด 1,823 เมกะวัตต์ในเกาหลีใต้ ที่เดินเครื่องผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) แล้ว และคาดว่าการโอนหุ้นจะแล้วเสร็จเดือน ม.ค.62 ก็จะมีส่วนแบ่งกำไรเข้ามาช่วยชดเชยส่วนแบ่งกำไรที่หายไปจากโรงไฟฟ้ามาซินลอค
สำหรับปี 61 ผลประกอบการจะเติบโตดีกว่าปี 60 ที่มีกำไรสุทธิ 1.18 หมื่นล้านบาท และมีกำไรจากการดำเนินงาน 9.27 พันล้านบาท โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้มีกำไรสุทธิ 2.18 หมื่นล้านบาท
นอกจากนี้ จะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าที่อยู่ในมือจะ COD ในไตรมาส 4/62 ราว 383 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นโรงไฟฟ้าพลังน้ำไซยะบุรีในสปป.ลาว 160 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าถ่านหินซานบัวนาเวนทูรา ประเทศฟิลิปปินส์ 223 เมกะวัตต์ พร้อมกันนี้เพื่อการเติบโตอย่างต่อเนื่อง EGCO ยังมองหาโอกาสการเข้าลงทุนใหม่
สำหรับโครงการผลิตไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ (IPP) ตามร่างแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้า (PDP) ฉบับใหม่ปี 2561-2580 มีโอกาสจะเปิดแข่งขันรับซื้อไฟฟ้าจาก IPP ตามแผนที่จะมีโรงไฟฟ้าหลักแข่งขัน รวมประมาณ 8,300 เมกะวัตต์ นั้นEGCO มีความพร้อมในการแข่งขันเพราะมีพื้นรองรับการพัฒนาไฟฟ้าทั้งในโซนภาคตะวันตก ภาคใต้ และภาคตั้งวันออก
ส่วนแผนการลงทุนในปี 62 บริษัทจะใช้เงินลงทุนรวม 1.7 หมื่นล้านบาท เพื่อใช้ลงทุนโรงไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างพัฒนา และการเข้าซื้อโรงไฟฟ้า Paju โดยการลงทุนโครงการผลิตไฟฟ้าในมือที่อยู่ระหว่างพัฒนา 3 โครงการ รวม 544 เมกะวัตต์ มูลค่าโครงการรวม 1.6 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะใช้เงินทุนของบริษัท 4 พันล้านบาท ส่วนที่เหลือจะเป็นเงินกู้ โดยเป็นการลงทุนต่อเนื่องของโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำไซยะบุรี และโรงไฟฟ้าถ่านหินซานบัวนาเวนทูรา และใช้ลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าน้ำเทิน 1 ในสปป.ลาว กำลังผลิตตามสัดส่วนร่วมทุน 161 เมกะวัตต์ ซึ่งจะเริ่ม COD ในไตรมาส 2/65
ส่วนการเข้าซื้อโรงไฟฟ้า Paju มูลค่า 2.62 หมื่นล้านบาทนั้น จะมาจากเงินทุนของบริษัทราว 1.3 หมื่นล้านบาท ส่วนที่เหลือราว 1.3 หมื่นล้านบาท จะกู้จากแบงก์ต่างประเทศมากกว่า 1 ราย อายุ 5 ปี ซึ่งคาดว่าจะลงนามสัญญาเงินกู้ภายในปีนี้ ซึ่งจะทำให้หนี้สินต่อทุน (D/E) เพิ่มเป็น 1.1 เท่า
นอกจากนี้ ยังมองหาโอกาสการลงทุนเพิ่มเติมในเกาหลีใต้ ทั้งลงทุนโรงไฟฟ้าและธุรกิจก๊าซธรรมชาติเหลว LNG ซึ่งปัจจุบัน EGCO กับบริษัท SK E&S อยู่ระหว่างการจัดทำสัญญาความร่วมมือทางธุรกิจ LNG และโรงไฟฟ้า ซึ่งคาดว่าจะลงนามสัญญาได้ภายในเดือนม.ค.62 ซึ่งความร่วมมือในธุรกิจโรงไฟฟ้าน่าจะเกิดขึ้นในต่างประเทศ ส่วนในธุรกิจ LNG มีโอกาสเกิดขึ้นได้ทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะในประเทศที่ปัจจุบันการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ ได้รับสิทธิการจัดหาและนำเข้า LNG ราว 5 ล้านตันต่อปี
www.mitihoon.com