มอง SET เปิดปีใหม่เคลื่อนไหวผันผวน ตลาดจับตาเจรจาการค้าสหรัฐกับจีน  

68

มิติหุ้น-KTBST มอง SET เปิดสัปดาห์แรกของปีใหม่ ยังมีความผันผวนจากปีเก่าตามมา ตลาดจับตาปัจจัยหลักคือการเจรจาการค้าสหรัฐกับจีนในวันที่ 7 ม.ค. หากเป็นบวกจะหนุนตลาดหุ้นและสินค้าโภคภัณฑ์ มองกรอบดัชนีในสัปดาห์นี้ 1,550-1,584 จุด  แนะเลือกหุ้นที่มีปัจจัยเฉพาะตัวหรือมีกำไรที่มั่นคง หุ้นเด่น  GULF, BJC, MTC, SEAFCO, ERW, THG, THANI 

ดร.วิน  อุดมรัชตวนิชย์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KTBST  ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์ทำการแรก (2-4 ม.ค.) ของปี 2562 ว่า ปัจจัยต่างประเทศยังมีผลต่อทิศทางดัชนีอยู่ ประเด็นสำคัญที่ตลาดจะให้ความสนใจมากคือ การเจรจาการค้าของสหรัฐฯกับจีนในวันที่ 7 ม.ค. 2562 ซึ่งจะนำไปสู่การทำข้อตกลงระหว่าง 2 ประเทศ หากเจรจาประสบความสำเร็จจะมีน้ำหนักในทางบวกต่อตลาด แต่อย่างไรก็ตามผลกระทบจากการใช้นโยบายภาษีสหรัฐฯกับจีนยังมีผลต่อเศรษฐกิจและการค้าของโลกไปอีกระยะหนึ่ง ซึ่งการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกจากผลของสงครามการค้านั้นไม่เพียงแต่มีผลต่อตลาดหุ้นแต่มีผลต่อเรื่องอื่นๆด้วย เช่น โอกาสที่ธนาคารกลางสหรัฐฯจะขึ้นดอกเบี้ย 3 ครั้งในปี 2562 มีน้อยลงอาจเหลือเพียง 1-2 ครั้ง ขณะเดียวกันยังส่งให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวลง แต่หากเจรจาการค้ามีแนวโน้มเป็นผลสำเร็จ ดัชนีตลาดหุ้นและราคาผลิตภัณฑ์จะปรับตัวสูงขึ้น

ส่วนปัจจัยในประเทศนั้น ตลาดกำลังติดตามเรื่องผลโพลการเลือกตั้งว่าใครจะเป็นผู้ชนะการเลือกตั้ง หากเป็นไปในทิศทางที่หนุนตลาด เชื่อว่านักลงทุนจะกลับเข้ามาซื้อหุ้นหลังจากที่ชะลอการซื้อไปในเดือน ธ.ค. ปีที่ผ่านมา ทั้งนี้หลังจากมีการตราพระราชกฤษฎีกากำหนดให้มีการเลือกตั้งออกมาซึ่งคาดว่าเป็นช่วงสัปดาห์แรกของ ม.ค.นี้ จะทำให้นักลงทุนอาจตอบรับต่อความชัดเจนของวันเลือกตั้งที่คาดไว้ว่าเป็นวันที่ 24 ก.พ.

ดังนั้นการลงทุนในสัปดาห์แรกของปี 2562 นี้  ตลาดหุ้นจะมีวันทำการเพียง 3 วัน คาดว่าตลาดยังมีความผันผวน แต่หากตัวแปรหลักๆ  อย่างเรื่องการเจรจาการค้าสหรัฐฯกับจีนและทิศทางการเมืองของไทยเป็นผลบวก ตลาดพร้อมจะปรับตัวขึ้น โดย KTBST แนะนำให้ “ถือ” เพื่อรอดูจังหวะในการซื้อหรือขายหุ้น และยังคงแนะนำให้เลือกลงทุนหุ้นโดยเน้นหุ้นที่มีปัจจัยเฉพาะตัวหรือมีกำไรที่มั่นคงไว้ก่อน สำหรับหุ้น KTBST มองว่าน่าสนใจในสัปดาห์นี้ ประกอบด้วย GULF, BJC, MTC, SEAFCO, ERW, THG, THANI และมองกรอบดัชนีในสัปดาห์นี้ที่ 1,550-1,584 จุด

www.mitihoon.com