IRPC อัดงบลงทุน 5 ปี 7 หมื่นล. ลุยซื้อกิจการต่อเนื่อง ขณะปี 61 กำไรพลาดเป้าเหตุไตรมาส4/61 ขาดทุนสต๊อกน้ำมัน

203

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงาน บมจ.ไออาร์พีซี หรือ IRPC โดยนายสุกฤตย์ สุรบถโสภณ กรรมการผู้จัดการใหญ่ เปิดเผยว่า แผนการลงทุนช่วง 5 ปี(2562-2566)ของบริษัท เตรียมใช้งบ 7 หมื่นล้านบาท ขับเคลื่อนการลงทุนตามแผนยุทธศาสตร์ใหม่ ภายใต้ชื่อ GDP (Power of Growth Power of Digital และ Power of People
โดยงบลงทุนส่วนใหญ่ใช้สำหรับโครงการ Maximum Aromatics (MARS) มูลค่าประมาณ 3 หมื่นล้านบาท เพื่อขยายกำลังผลิตอะโรเมติกส์ โดยจะสามารถเพิ่มกำลังการผลิตพาราไซลีนเป็น 1.1-1.3 ล้านตันต่อปี จากเดิม 1 ล้านตันต่อปี และผลิตเบนซินเพิ่มเป็น 3-5 แสนตันต่อปี จากเดิมที่ 3 แสนตันต่อปี คาดว่าจะสรุปการลงทุนเพื่อเปิดประมูลเพื่อหาผู้รับเหมาก่อสร้างได้ในช่วงกลางปี62 และใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 3ปีครึ่ง หรือเสร็จในปี 66

ส่วนงบลงทุนราว 2 หมื่นล้านบาทใช้สำหรับการลงทุนใหม่อย่างการเข้าลงทุนซื้อกิจการ (M&A) ภายใต้โครงการ Galaxy เพื่อรองรับผลิตภัณฑ์ที่บริษัทผลิตได้ ซึ่งจะเป็นการต่อยอดธุรกิจของบริษัทให้ครอบคลุมต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างเจรจาทั้งในประเทศและต่างประเทศหลายโครงการ แต่ยังไม่มีข้อสรุป นอกจากนี้ งบลงทุนราว 8,000 ล้านบาท ใช้สำหรับโครงการอัลตาร์ เพื่อปรับสู่มาตรฐานยูโร 5 และอีกราว 1 หมื่นล้านบาทสำหรับโครงการซ่อมบำรุงต่างๆ

ขณะทิศทางราคาน้ำมันดิบในปี 62 คาดว่า หลายบริษัทอยู่ระหว่างทบทวนปรับประมาณการณ์ลงจากเดิมคาดว่าราคาดูไบจะอยู่ที่ 70-75 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล โดยส่วนตัว มองว่า ราคาจะอยู่ในกรอบ 50-60 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล หลังจากแหล่งเชลล์ออยล์ในสหรัฐ ผลิตน้ำมันสูงเป็นประวัติการณ์ 1.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน มากกว่ารัสเซีย และใกล้เคียงปริมาณที่สหรัฐคว่ำบาตรอิหร่าน ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบที่ถูกลงทุก 10 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลจะทำให้บริษัทประหยัดต้นทุนค่าเชื้อเพลิงลงราว 70 เซนต์ ซึ่งเป็นผลดีต่อบริษัท

ส่วนผลประกอบการปี 61 กำไรจากการดำเนินงานจะต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ว่าจะดีกว่าปี 60 ที่มีกำไรสุทธิ อยู่ที่ 11,354.48 ล้านบาท เนื่องจากในไตรมาส4/61 ขาดทุนจากสต็อกน้ำมัน หลังราคาราคาน้ำมันดิบลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ที่ผ่านมา ซึ่งลดลงมากว่า 10 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยในเดือนธ.ค. 61 น่าจะปิดต่ำกว่าราคาเฉลี่ยในเดือนธ.ค. 60 อยู่ที่ 62 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล แต่หากไม่รวมผลกระทบจากสต็อกน้ำมันเชื่อว่ากำไรจากการดำเนินงานในปี2561 จะดีกว่าปี2560 อย่างแน่นอน

www.mitihoon.com