ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) โดยนายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ เปิดเผยว่า คาดแนวโน้มของดัชนีตลาดหลักทรัพย์ในปี 62 จะมีความผันผวนลดน้อยลงจากปี 61 เนื่องจากไม่มีปัจจัยใหม่ที่เข้ามากดดัน โดยตลาดฯ ได้รับรู้ปัจจัยกดดันที่ชัดเจนมาตั้งแต่ปีก่อนแล้ว โดยเฉพาะปัจจัยภายนอกจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่ยังมีความไม่แน่นอนอยู่ ส่งผลให้กดดันสภาพคล่องและภาพรวมการลงทุนทั่วโลก
ขณะเดียวกัน ยังต้องติดตามประเด็นดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการเจรจาข้อตกลงระหว่าง 2 ประเทศในเร็วๆ นี้ อีกทั้งยังมีปัจจัยกดดันจากการผันผวนของราคาน้ำมันดิบที่ยังกดดันดัชนี้อยู่ ส่วนสถานการณ์การขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มองว่ายังไม่ขึ้นดอกเบี้ยเร็วๆ นี้ ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ซึ่งเป็นเพียงการส่งสัญญาณในช่วงระยะสั้นๆ เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ยังมั่นใจว่าเศรษฐกิจในประเทศไทยยังคงมีความแข็งแกร่งอยู่ บริษัทจดทะเบียน (บจ.) ยังมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ร่วมถึงยังมีความชัดเจนจากการเลือกตั้งในเดือน ก.พ. 62 แม้จะมีแนวโน้มการเลื่อนการเลือกตั้งในระยะสั้น แต่ไม่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่น
ด้านนายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร เผยว่า ในช่วงที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าดัชนีหุ้นไทยมีความผันผวนหลัก ๆ ส่วนใหญ่จากปัจจัยภายนอก และส่งผลกระทบมาถึงปี 62 ไม่ว่าจะเป็นสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน ซึ่งยังต้องติดตามการเจรจาว่าจะมีทางออกในรูปแบบใด
สำหรับดัชนีตลาดหุ้นไทย (SET Index) ในปี 61 (ธ.ค.60 ถึง ธ.ค.61) มีการปรับตัวลดลง 10.8% ซึ่งลดลงน้อยกว่าเมื่อเทียบกับดัชนีกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ (MSCI EM) ที่ลดลง 16.6% สะท้อนว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยดีกว่าตลาดอื่น จากเดือน ธ.ค.61 มีกระแสเงินไหลออกจากตลาดหุ้นไทยในระดับต่ำราว 2.8 แสนล้านบาท แต่มีเม็ดเงินเข้าพันธบัตรรัฐบาล 1.9 แสนล้านบาท สะท้อนความเชื่อมั่นนักลงทุนต่างชาติยังมองว่าตลาดทุนไทยยังเป็นฐานการลงทุนที่น่าสนใจ
ส่วนอัตราส่วนราคาต่อกำไร (P/E ratio) ของตลาดหุ้นไทยในปี 61 ยังเกาะกลุ่มกับภาพรวมของตลาดประเทศเกิดใหม่ และอัตราผลตอบแทน (dividend yeild) ของตลาดหุ้นไทยอยู่ที่ 3.35% อยู่ในระดับสูงกว่าหลายประเทศในภูมิภาคเอเชียที่มีค่าเฉลี่ยอยู่ราว 3.02%