5 อันดับข่าวเด่นมิติหุ้นภาคเช้า

214

อันดับที่ 1 KIAT ปักหมุดรายได้ปี 62 โต 50% กำไรโต 2 หลัก ลุยขยายงานตปท.

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.เกียรติธนา ขนส่ง หรือ KIAT โดยนางสาวมินตรา มนต์เสรีนุสรณ์ ผู้จัดการฝ่ายการเงิน เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในปี 62 คาดกำไรสุทธิจะเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลัก รวมถึงจะพยายามผลักดันรายได้ให้เติบโตอยู่ที่ระดับ 50% โดยในปีนี้บริษัทจะมุ่งเน้นการขยายงานในต่างประเทศ โดยเฉพาะในศปป.ลาว เนื่องจากเป็นประเทศที่มีศักยภาพการเติบโตสูง และมีลูกค้าเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันบริษัทยังมีแผนเพิ่มจำนวนรถขนส่งมากขึ้น เพื่อรองรับออเดอร์จากลูกค้าที่มากขึ้น โดยคาดว่าจะใช้งบลงทุนประมาณ 100 ล้านบาท รวมถึงจะมีการขยายธุรกิจโรจิสส์ติกให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น หากมีโอกาสในอนาคตอาจมีการขยายการขนส่งทางน้ำ และอากาศได้ รวมถึงการปรับโครงสร้างต่างๆ ของการทำงาน อาจมีการนำเทคโนโลยี และไอที่เข้ามามีบทบาทในการบริหารงานด้วย

อันดับที่ 2 TCMC ปูพรมรายได้ปีนี้โต7-10% ตามภาวะเศรษฐกิจพุ่งหนุนออเดอร์ไหลเข้าต่อเนื่อง

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บริษัท ทีซีเอ็ม คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TCMC โดย นายพิมล ศรีวิกรม์ ประธานกรรมการและประธานกรรมการบริหาร เปิดเผยว่า บริษัทวางเป้าหมายการเติบโตปีนี้ที่ 7-10% โดยมีปัจจัยบวกจากการเติบโตของภาคธุรกิจที่ได้รับผลดีจากการคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจในภาพรวม แนวโน้มจะมีการเลือกตั้งทั่วประเทศ อีกทั้งการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ของรัฐและเอกชน และการขยายของภาคอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงการเติบโตของการท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มที่ดีอย่างต่อเนื่อง ล้วนจะเป็นปัจจัยบวกต่อธุรกิจของเราในปีนี้ “ภาพรวมรายได้หลักปีนี้ของบริษัทมาจาก 3 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจพรมและวัสดุปูพื้น คิดเป็นสัดส่วนประมาณ  35% กลุ่มธุรกิจพรมและผ้าหุ้มบุในรถยนต์คิดเป็นสัดส่วน 15% และกลุ่มธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ คิดเป็นสัดส่วน 50%

อันดับที่ 3 CIMBT  แจ้งกำไรวูบ 98%! ไม่หวั่นปี 62 เร่งเครื่องธุรกิจเต็มสูบปั๊มสินเชื่อโต5-10%

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ CIMBT โดย “นายกิตติพันธ์ อนุตรโสตถิ” กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แจ้งผลการดำเนินงานงวดปี 61 มีกำไรสุทธิที่ 6.9 ล้านบาท ลดลง 378 ล้านบาท หรือลดลง 98.2% เมื่อเทียบกับปี 60 ที่มีกำไรสุทธิที่ 384.89 ล้านบา เหตุได้รับแรงกดดันจากค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น และรายได้ค่าธรรมเนียมและรายได้อื่นๆ ลดลง ส่วนภาพธุรกิจในปี 62 ตั้งเป้าสินเชื่อเติบโต 5-10% จากปี 61 ที่เติบโตเพียง 4% หลักๆมาจากการเติบโตของกลุ่มสินเชื่อรายย่อย คาดเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% และสินเชื่อธุรกิจรายใหญ่เติบโตไม่เกิน 10% โดยสินเชื่อธุรกิจรายใหญ่จะได้รับอานิสงส์จากการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ ทำให้มีความต้องการสินเชื่อเพิ่มมากขึ้น

อันดับที่ 4 “ปรเมษฐ์ รังรองธานินทร์” เทขายหุ้น DIGI เกลี้ยงพอร์ต 338.56 ล้านหุ้นที่ราคา 0.21 บ.รวมมูลค่า 71 ล้านบาท

มิติหุ้น-บมจ.ดิจิตอลเทค แพลนเน็ต (DIGI) โดยนายอมฤต ศุขะวณิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยว่า นายปรเมษฐ์ รังรองธานินทร์ ได้จำหน่ายหุ้นสามัญของบริษัทฯจำนวน 338,556,100 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 21.42 ของทุนจดทะเบียนเรียกชำระแล้วของบริษัทฯ ให้กับนายจิรวุฒิ คุวานันท์เมื่อวันที่ 14 ม.ค. 2562 ผ่านรายการทำ Big Lot ส่งผลให้โครงสร้างผู้ถือหุ้นเปลี่ยนแปลง เมื่อเทียบกับรายชื่อผู้ถือหุ้นที่บริษัทได้ปิดสมุดจดทะเบียนรายชื่อผู้ถือหุ้นล่าสุด เมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2561 เปรียบเทียบกับรายชื่อผู้ถือหุ้นก่อนการทำ BigLot ขณะที่รายชื่อผู้ถือหุ้นอื่นๆ บริษัทจะขอใช้ข้อมูลจากรายชื่อผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 1 พ.ย. 2561 เพื่อเป็นรายชื่อภายหลังการทำ Big Lot ทั้งนี้ภายหลังการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการถือหุ้นข้างต้น นายจิรวุฒิ คุวานันท์มีหน้าที่ต้องทำคำเสนอซื้อ หลักทรัพย์ทั้งหมดของบริษัทโดยมีราคาเสนอซื้อหลักทรัพย์เท่ากับ 0.21 บาทต่อหุ้น

อันดับที่ 5 TPLAS ตั้งเป้ารายได้ปี 62 โตเกิน 15% เล็งออกผลิตภันฑ์ใหม่บุกตลาด

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ไทยอุตสาหกรรมพลาสติก (1994) จำกัด (มหาชน) หรือ TPLAS โดยนายธีระชัย ธีระรุจินนท์ กรรมการผู้จัดการ เปิดเผยว่า ตั้งเป้ารยได้ปี 62 โตไม่ต่ำกว่า 15% บริษัทยังคงมุ่งมั่นที่จะก้าวสู่การเป็นผู้นำทางด้านอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์เกี่ยวกับอาหาร ที่ทันสมัย และมีคุณภาพสูง รวมถึงมีความหลากหลาย เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าทั้งในประเทศ และต่างประเทศมากขึ้น นอกจากนี้บริษัทเตรียมที่จะผลิตสินค้าใหม่ ซึ่งเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ประเภทบรรจุภัณฑ์ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยเบื้องต้นคาดว่าจะเริ่มทดลองตลาดช่วงต้นปี 62 โดยยังคงมุ่งเน้นไปยังลูกค้ากลุ่มเดิม และขยายฐานไปยังกลุ่มอุตสาหกรรมรายใหม่ๆ ส่งผลให้ในอนาคตสามารถกระจายความเสี่ยงของรายได้ จากเดิมที่บริษัทฯมีรายได้จากยอดขายผลิตภัณฑ์ถุงพลาสติกและฟิล์มถนอมอาหาร เพียงอย่างเดียว