อันดับที่ 1 SCN มีแววส้มหล่นจ่อรับทรัพย์ก้อนโต4พันลบ. หลังขสมก.จ่อโละรถเมย์รุ่นเก่าที่ใช้ดีเซลเหตุก่อมลพิษรุนแรง
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บริษัท สแกน อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCN โดย นาย ฤทธี กิจพิพิธ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเข้าร่วมประมูลงานใหม่ของ ขสมก. โดยเป็นงานผลิตพร้อมประกอบ รถเมย์ NGV รอบใหม่ จำนวน 300 คัน ทั้งนี้เชื่อว่า ทางขสมก. จะรีบเร่งออกรายละเอียดต่างๆ (TOR) เพื่อให้เอกชนได้ร่วมพิจารณาการเข้าลงทุน เนื่องจากปัญหาฝุ่นระอองและมลภาวะทางอากาศในปัจจุบัน ที่ส่วนใหญ่เกิดจากรถยนต์ที่ใช้ดีเซล จึงทำให้ จะมีการปรับเปลี่ยนรถเมย์รุ่นเก่าเร็วขึ้น เบื้องต้นมูลค่างานจะอยู่ประมาณ 4,000 ล้านบาท โดยหากมีความคืบหน้าจะแจ้งให้นักลงทุนทราบต่อไป สำหรับโครงการเดิมได้แก่ การส่งมอบรถเมย์ NGV ที่เหลืออีก 187 คัน คาดดำเนินการแล้วเสร็จได้ภายในไตรมาส 1/62 ทำให้บริษัทได้รับเงินครบจำนวนทั้งโครงการกว่า 1.8 พันล้านบาท
อันดับที่ 2 IVL เผยเข้าซื้อโรงงานรีไซเคิล PET สหรัฐผ่านฉลุย วงในให้เป้าหมาย 80 บ.
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จากัด (มหาชน) หรือ IVL โดย นายโซวิค รอย เชาว์ดูรี่ เลขานุการบริษัท เปิดเผยว่า บริษัทได้เข้าซื้อโรงงานรีไซเคิล PET ในรัฐอลาบาม่า (Alabama) ประเทศสหรัฐอเมริกา จากบริษัท Custom Polymers PET, LLC. เสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2562 โดย โรงงานดังกล่าวประกอบด้วย 2 สายการผลิต ได้แก่ เกล็ดพลาสติก PET รีไซเคิล (Recycled Polyethylene Terephthalate (rPET) Flake) และเม็ดพลาสติก PET รีไซเคิลสำหรับบรรจุภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม (food-grade rPET Pellets) ซึ่งมีกำลังการผลิตรวมกันอยู่ที่ 31,000 ตันต่อปี โดยโรงงานดังกล่าวนี้ตั้งโรงงานอยู่ใกล้กับ AlphaPet Inc. ในรัฐอลาบาม่า (Alabama) ซึ่งเป็นโรงงานผลิตโพลีเอสเตอร์ของไอวีแอลในประเทศสหรัฐอเมริกา
อันดับที่ 3 INET จ่อชงผู้ถือหุ้นขายสินทรัพย์เข้ากองIFF ภายในเดือน ก.พ.นี้ หวังตุนเงิน3พันลบ. เสริมแกร่งธุรกิจ
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.อินเทอร์เน็ตประเทศไทย หรือ INET ผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานด้านไอซีทีแบบครบวงจร โดยนายวัลล์ชัย เวชชีวะดำรงค์ รองกรรมการผู้จัดการ เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมจัดประชุมผู้ถือหุ้นภายในเดือน ก.พ.นี้ โดยมีความต้องการให้ผู้ถือหุ้นอนุมัติการขายสินทรัพย์เข้ากองทุนโครงสร้างพื้นฐาน(IFF) มูลค่ารวมราว 3,000 ล้านบาท โดยทางบริษัทมีจุดประสงค์ในการใช้เงิน ได้แก่ จำนวนกว่า 1,000 ล้านบาท ใช้ชำระเงินกู้ทั้งระยะสั้นและระยะยาว เพื่อลดจำนวนหนี้สินต่อทุนให้ต่ำลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยในระยะต่อนั้นจะสามารถเพิ่มศักยภาพในการลงทุนได้อีกมาก หากต้องการใช้เครื่องมือทางการเงินชนิดอื่นๆ และอีก จำนวน 1,000 ล้านบาท นำมาลงทุนในกองทุนดังกล่าว เพื่อหวังผลตอบแทนจากการลงทุนในระยะยาว และในส่วนที่เหลือหลักร้อยล้านบาท นำมาขยายธุรกิจเสริมแกร่งพื้นฐาน
อันดับที่ 4 เลขาธิการ EEC ระบุ ตามแผนลงทุนพื้นที่อีอีซี 1.7 ล้านลบ. จะเกิดการลงทุนเพิ่ม 3 แสนลบ.ต่อปี หนุน GDP โตเพิ่มจากฐานเดิมอีก 2% ต่อปี
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า คณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมหารนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) หรือพื้นที่ EEC เผยในงานสัมมนาใหญ่ประจำปี 2561 สมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ ว่า ตามแผนพัฒนาพื้นที่ EEC ในช่วง 5 ปี (61-65) วงเงินลงทุน 1.7 ล้านล้านบาท จะดูงดูดให้มีเม็ดเงินลงทุนเพิ่มตามมามา เกิดการจ้างงานเพิ่มขึ้น คิดเป็นวงเงินเพิ่มขึ้นอีก 3แสนล้านบาทต่อปี ทั่งนี้ จะช่วยหนุนการเติบโตของ GDP ไทย โตเพิ่มจากฐานเดิมอีก 2% ต่อปี โดยหากฐานอยุ่ที่ 4% ก็จะโตเพิ่มเป็น 5-6% ได้ สำหรับความคืบหน้าในการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาเป็นสนามบินเชิงพาณิชย์นั้น คาดว่าภายในเดือน ก.พ.นี้ จะมีบริษัทเอกชนขนาดใหญ่ยื่นข้อเสนอเข้ามาให้พิจารณา นายคณิศกล่าวถึงเศรษฐกิจไทยหลังการเลือกตั้งว่า หากมีการเลือกตั้งแล้ว และการเมืองมีเสถียรภาพ จะเป็นเครื่องการันตีได้ว่า เศรษฐกิจไทยจะโตได้ 4% ต่อปีเป็นอย่างต่ำ
อันดับที่ 5 AOT Q1ไฮซีซั่นหนุนกำไรแกร่ง โบรกแนะนำซื้อ82.12บาท
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ท่าอากาศยานไทย หรือ AOT โดยนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เคจีไอ(ประเทศไทย) ระบุว่า คาดผลประกอบการ AOT ไตรมาส1/62 (ต.ค.-ธ.ค.61) มีกำไรสุทธิราว 6.55 พันล้านบาทเติบโตขึ้น 5.4% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้นราว 24.9% เทียบกับไตรมาส4/61 เนื่องจากเป็นช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวส่งผลให้มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ซึ่งจำนวนผู้โดยสารจีนเพิ่มขึ้นเป็น 1.25 ล้านคนในเดือนตุลาคม และ 1.27 ล้านคนในเดือนพฤศจิกายน ทั้งนี้นักวิเคราะห์มองว่าธุรกิจของ AOT มีแนวโน้มแข็งแกร่งจากการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของนักท่องเที่ยวจีน และอุปสงค์ที่แข็งแกร่งจากผู้โดยสารในปี 2562 นอกจากนี้นักวิเคราะห์เชื่อว่าบริษัทยังมีโอกาสที่จะปรับเพิ่ม PSC ของทั้งผู้โดยสารระหว่างประเทศและในประเทศขึ้นได้อีก โดยในปัจจุบัน PSC ของสนามบิน Changi ของสิงคโปร์อยู่ที่ 845 บาท (SGD 34) ซึ่งยังสูงกว่าของ AOT อยู่ 20% ดังนั้นฝ่ายวิเคราะห์ยังคงแนะนำซื้อในราคาเป้าหมาย 82.12 บ.
www.mitihoon.com
