คอลัมน์กรุงศรีทอล์ก
โดย รุ่ง สงวนเรือง ผู้อำนวยการ
ผู้บริหารฝ่ายส่งเสริมธุรกิจโกลบอลมาร์เก็ตส์
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)
ขณะที่ชาวกรุงเทพฯ และปริมณฑลกำลังเผชิญปัญหาค่าฝุ่นละอองเกินมาตรฐานอยู่นั้น ข้อมูลเศรษฐกิจโลกบ่งชี้ถึงบรรยากาศขมุกขมัวไม่แพ้กัน เปิดศักราชใหม่ ปี 2562 นักลงทุนวิตกมากขึ้นเมื่อมูลค่าส่งออกเดือนธันวาคม 2561 ของจีนหดตัวลงมากที่สุดในรอบ 2 ปี ส่วนยอดนำเข้าลดลงผิดคาดเช่นกัน โดยเป็นผลจากการชะลอตัวของอุปสงค์ในตลาดสำคัญส่วนใหญ่
ทั้งนี้ ในปี 2561 จีนเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ สูงถึง 3.23 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งอาจทำให้ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนยังคงคุกรุ่นต่อไป แม้ประธานาธิบดีทรัมป์ของสหรัฐฯ แสดงความมั่นใจว่าจะบรรลุข้อตกลงกับจีนเพื่อยุติสงครามการค้า และการเจรจากำลังดำเนินไปได้ด้วยดี อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ ผู้นำสหรัฐฯ เคยประกาศว่าจะขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนมูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์ในวันที่ 2 มีนาคม 2562 หากจีนไม่สามารถจัดการกับประเด็นทรัพย์สินทางปัญญา การบังคับให้ถ่ายโอนเทคโนโลยี และอุปสรรคทางการค้าอื่นๆ ที่ไม่ใช่ภาษี
หากพิจารณาตัวเลขเศรษฐกิจล่าสุดจากภูมิภาคอื่นของโลก จะพบว่าโมเมนตัมการเติบโตล้วนกำลังซึมลงอย่างต่อเนื่อง ตอกย้ำความเห็นในตลาดที่ว่าเศรษฐกิจและการค้าโลกได้ผ่านพ้นจุดสูงสุดไปแล้ว โดยผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของเยอรมันร่วงลงเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน การใช้จ่ายภาคครัวเรือนของญี่ปุ่นชะลอตัวเกินคาด ส่วนดัชนี ISM ภาคบริการของสหรัฐฯแตะระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือน
ในภาวะเช่นนี้ แม้การคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ระบุว่าจะใช้ความอดทนในการกำหนดนโยบายการเงิน และส่งสัญญาณชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ดังที่เราได้เคยวิเคราะห์ไปแล้ว จะกดดันให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลง แต่ความผันผวนมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจของประเทศหลักแห่งอื่นๆ ยังไม่สดใส ท่าทีล่าสุดของทางการจีนส่งสัญญาณว่าจีนเตรียมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ขณะที่จะลดเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจลงสู่ 6-6.5% ในปีนี้ หลังจากที่คาดว่าขยายตัว 6.6% ในปี 2561 ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตที่ช้าที่สุดในรอบ 28 ปี (กราฟด้านล่าง)
นอกจากนี้ ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวในเขตยูโรโซน และความระมัดระวังของธนาคารกลางยุโรป(อีซีบี) รวมถึงความไม่แน่นอนเกี่ยวกับรูปแบบของ Brexit อาจช่วยจำกัดแรงขายเงินดอลลาร์ได้บ้าง เราหวังใจว่าสภาพอากาศในเมืองหลวงจะค่อยๆ ดีขึ้น ขณะที่มาตรการของผู้ดำเนินนโยบายเศรษฐกิจทั่วโลกจะช่วยประคับประคองให้การชะลอตัวอยู่ในระดับที่ตลาดสามารถรับมือได้ยังคงเป็นมุมมองหลักของเรา