ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) โดยนายธาดา พฤฒิธาดา กรรมการผู้จัดการ เผยว่า คาดการณ์มูลค่าการออกตราสารหนี้ภาคเอกชนระยะยาวในปี 62 ไว้ที่ 750,000 – 850,000 ล้านบาท โตใกล้เคียงปี 61ที่มียอดการออกทะลุ 8 แสนล้านบาท ติดต่อกันเป็นปีที่ 3 แบ่งเป็น การออกหุ้นกู้ชุดใหม่เพื่อทดแทนหุ้นกู้ชุดเดิมที่ครบกำหนดอายุ (Refinance) มูลค่า 3.8-4.1 แสนล้านบาท ซึ่งมาจากการต่ออายุ (Rollover) ในสัดส่วน 60-70% ของมูลค่าหุ้นกู้ที่ครบกำหนด 5.85 แสนล้านบาท และการออกหุ้นกู้ชุดใหม่ มูลค่า 4.5 แสนล้านบาท ซึ่งมาจากความต้องการระดมทุนเพิ่มรองรับขยายการลงทุน
ทั้งนี้ ประเมินทิศทางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลในปี 62 พันธบัตรระยะสั้นจะเคลื่อนไหวอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับดอกเบี้ยนโยบายที่คาดว่าจะทรงตัวในระดับร้อยละ1.75 ตลอดทั้งปี ส่วนเส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวจะแกว่งตัวแคบๆ อยู่ในระดับใกล้เคียงกับปัจจุบัน จากอัตราเงินเฟ้อของไทยยังอยู่ในระดับต่ำ และเศรษฐกิจโลกที่ถูกกดดันจากสงครามการค้า
สำหรับภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยในปี 61 ที่ผ่านมาว่า ตลาดตราสารหนี้ไทยยังคงเติบโตได้ดีมีมูลค่าคงค้างรวมทะลุ 13 ล้านล้านบาทเป็นครั้งแรก โดยเพิ่มขึ้น 11.5% จาก 11.71 ล้านล้านบาทในปี 60 มาอยู่ที่ 13.06 ล้านล้านบาท ส่วนตราสารหนี้ภาคเอกชนระยะยาว มียอดการออกทะลุ 8 แสนล้านบาท ติดต่อกันเป็นปีที่ 3 โดยในปี 61 มียอดการออกสูงสุดทำลายสถิติที่ 878,990 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 6.2 จากปี 60 (เพิ่มขึ้น 51,151 ลบ.) โดยมาจากกลุ่ม Real sector ที่มีการออกเพิ่มขึ้น 18% แต่ลดลงในกลุ่ม Bank&Finance 19%
ส่วนตราสารหนี้ภาคเอกชนระยะสั้นปี 61 ในภาพรวมมีมูลค่าการออกลดลง 7% โดยภาค Real sector (ไม่รวมกลุ่ม Bank&Finance และการกู้ยืมภายในกลุ่มธุรกิจ) ลดลง 7% จากการที่ ก.ล.ต. ปรับปรุงเกณฑ์การออกและเสนอขายตราสารหนี้ไปเมื่อเดือนเม.ย. ที่ผ่านมา กลุ่ม Bank&Finance ออกลดลงถึง 49% จากการลดการระดมทุนระยะสั้น ในขณะที่กลุ่มธุรกิจเดียวกันมีการกู้ยืมในรูปของตั๋วสัญญาใช้เงิน (PN) เพิ่มขึ้นกว่า 30%
ขณะที่การลงทุนจากต่างประเทศ (Fund flow) ใน 11 เดือนแรก มีการไหลเข้าสุทธิกว่า 1.5 แสนล้านบาท ดันให้ยอดการถือครองของต่างชาติขึ้นสูงเป็นประวัติการณ์ทะลุ 1 ล้านล้านบาท ไปอยู่ที่ 1,002,499 ล้านบาท ก่อนจะย่อต่ำลงอยู่ที่ 985,773 ล้านบาท ณ สิ้นปี 61 หรือเท่ากับ 11.8% ของมูลค่าคงค้างรวมพันธบัตรรัฐบาลและธปท. โดยมีกระแสเงินทุนไหลเข้าสุทธิทั้งปีที่ 133,764 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเข้าซื้อสุทธิในตราสารหนี้ของภาครัฐระยะยาว ที่ 239,255 ล้านบาท และไหลออกจากตราสารหนี้ภาครัฐระยะสั้นที่ถือจนครบกำหนดรวมกับการซื้อสุทธิราว 105,878 ล้านบาท
นายธาดา กล่าวว่า แม้ว่าในปี 61 ตลาดจะเผชิญกับแรงกดดันของทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้นของสหรัฐฯ แต่ตลอดทั้งปี อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยรุ่นอายุต่ำกว่า 10 ปี ปรับขึ้นในช่วง 13-42 bps. ซึ่งต่ำกว่าผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯในช่วงอายุเดียวกัน ในขณะที่ผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของไทยปรับตัวลดลง 3 bps. ทำให้เส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลจนถึงรุ่นอายุ 10 ปี ของไทยต่ำกว่าเส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ อย่างต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 9 ม.ค.61 จนถึงปัจจุบัน
www.mitihoon.com
