‘กลุ่มแบงก์’อวดกำไร61โตกระจิ๊ดริด โบรกฯส่องธุรกิจรับแรงกดดันเพียบ (23/01/2562)

414

มิติหุ้น – ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า ธนาคารพาณิชย์จำนวน 11 แห่ง รายงานผลประกอบการปี 2561 มีกำไรสุทธิรวมกัน 2.09 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% จากปี 2560 ที่มีกำไรสุทธิ 1.9 แสนล้านบาท ซึ่งธนาคารทหารไทย หรือ TMB มีอัตราการเติบโตของกำไรสูงสุดในกลุ่ม ขณะที่ธนาคารไทยพาณิชย์ หรือ SCB กำไรสุทธิลดลง 7%

โดยนายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) เผยว่า ผลประกอบการปี 2561 ของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ถือว่าออกมาต่ำกว่าที่คาดไว้ 8% และต่ำกว่า Consensus ถึง 12% โดย SCB ถือเป็นธนาคารที่มีกำไรน่าผิดหวังมากที่สุด และเป็นเหตุผลที่ทำให้ราคาหุ้นปรับตัวลงมาค่อนข้างแรงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลกระทบจากการตั้งสำรองหนี้ที่ค่อนข้างสูง รวมถึงค่าใช้จ่ายในการลงทุนแพลตฟอร์มดิจิทัลแบงก์กิ้ง และการยกเลิกค่าธรรมเนียมดิจิทัลแบงก์กิ้ง ซึ่งยังเป็นผลกระทบต่อกำไรของธนาคารขนาดใหญ่

กำไรเติบโตในอัตราชะลอตัว
สำหรับในปี 2562 ประเมินกำไรสุทธิกลุ่มธนาคารพาณิชย์จำนวน 8 แห่ง ไม่รวม BAY, CIMBT, LHBANK ไว้ที่ 1.78-1.8 แสนล้านบาท เติบโต 2-3% จากปีก่อน เนื่องจากคาดว่าค่าใช้จ่ายในการตั้งสำรองหนี้จะไม่ได้ลดลงมากเหมือนที่คาดการณ์ไว้ โดยเฉพาะ SCB ที่ผู้บริหารออกมาระบุว่าค่าใช้จ่ายในการตั้งสำรองหนี้ในปีนี้จะเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งมองว่าเป็นผลจากการที่ SCB จะมีการปล่อยสินเชื่อผ่านดิจิทัล หรือ “ดิจิทัล เลนดิ้ง” ที่จะเน้นไปที่กลุ่มสินเชื่อบุคคล และสินเชื่อรายย่อย โดยฝ่ายวิจัยมองว่าจะเป็นช่องทางที่สร้างมาร์จิ้นในระดับสูง แต่มีความเสี่ยงที่สูงมากเช่นกัน จึงเป็นเหตุให้ SCB ให้เป้าหมายในการตั้งสำรองหนี้ปีนี้เพิ่มขึ้นจากปีก่อน

ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยอาจมีการ “ปรับลดน้ำหนักการลงทุน” ในหุ้น “กลุ่มธนาคาร” แต่ยังสามารถลงทุนในหุ้นรายตัวได้ โดย Top Pick ของกลุ่มคือ BBL ที่คาดกำไรสุทธิในปี 2562 จะเติบโตราว 5% จากปีก่อนที่ทำได้ 3.53 หมื่นล้านบาท ซึ่ง BBL น่าจะบริหารค่าใช้จ่ายในการลงทุนกับรายได้ที่จะเข้ามาได้ดีกว่าธนาคารอื่น เพราะจะไม่มีการลงทุนด้านเทคโนโลยีเป็นจำนวนมากเหมือน KTB และ SCB โดยประเมินราคาราคาเป้าหมายไว้ที่ 245.00 บาท