ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) โดยนายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า กพช.เห็นชอบแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศ พ.ศ. 2561-2580 (PDP 2018) ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ โดยการทบทวนสถานการณ์กำลังผลิตไฟฟ้าในปัจจุบันและได้จัดทำการพยากรณ์ความต้องการใช้ไฟฟ้าระยะยาว 20 ปี
โดยกำลังการผลิตไฟฟ้าใหม่ตามแผน PDP จากปี 61-80 รวมกำลังการผลิตทั้งสิ้น 56,431 เมกะวัตต์ ประกอบด้วย โรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน 20,766 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าพลังน้ำสูบกลับ 500 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าระบบโคเจนเนอเรชั่น 2,112 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าความร้อนร่วม 13,156 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าถ่านหิน ลิกไนต์ 1,740 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าใหม่ทดแทน 8,300 เมกะวัตต์ รับซื้อไฟฟ้าจากต่างประเทศ 5,857 เมกะวัตต์ แผนอนุรักษ์พลังงาน 4,000 เมกะวัตต์
นอกจากนี้ กพช.ยังเห็นชอบให้โครงการโรงไฟฟ้า SPP Cogeneration จำนวน 25 ราย กำลังการผลิตรวม 2,974.205 เมกะวัตต์ ที่สิ้นสุดอายุสัญญาในปี 2559-2568 ได้รับการต่ออายุสัญญาหรือก่อสร้างโรงไฟฟ้าใหม่โดยให้ใช้เชื้อเพลิงตามสัญญาเดิมตลอดอายุสัญญารับซื้อไฟฟ้า 25 ปี (นับรวมระยะเวลาการก่อสร้าง) รับซื้อไฟฟ้าโรงละ 30 เมกะวัตต์ อัตราการรับซื้อไฟฟ้าสำหรับโครงการที่ใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติที่ 2.80 บาทต่อหน่วย และโครงการที่เป็นโรงไฟฟ้าถ่านหิน 2.54 บาทต่อหน่วย
อย่างไรก็ตาม ต้องให้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ไปดำเนินการพิจารณาตามหลักเกณฑ์ของ กพช.พร้อมกับคำนวนว่าระยะเวลาในการก่อสร้างว่าต้องใช้ระยะเวลากี่ปี เพื่อให้สามารถก่อสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ได้ พร้อมกันนี้ยังได้ให้ กกพ.พิจารณาแนวทางการดำเนินการโครงการโซลาร์ภาคประชาชนปีละ 100 เมกะวัตต์ 10 ปี นับตั้งแต่ปี 2562 เพื่อให้เกิดผลในทางปฏิบัติ
ขณะเดียวกันยังได้มอบหมายให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ดำเนินการศึกษาและจัดทำแผนการพัฒนาระบบส่งไฟฟ้าของประเทศเพื่อเสริมความมั่นคงระบบไฟฟ้า เพื่อพัฒนาเป็นศูนย์กลางซื้อขายไฟฟ้า (Grid connection) ในภูมิภาครวมถึงการเชื่อมโยงระบบจำหน่ายเพื่อให้สามารถรองรับการเพิ่มขึ้นของพลังงานหมุนเวียนในอนาคต (Grid Modernization)
www.mitihoon.com