ดัชนี SET index สัปดาห์ที่ผ่านมาแตะระดับ 1620 จุดตามคาด หลังทะลุผ่านแนวต้านจิตวิทยาที่ 1600 จุดได้ จากประเด็นการกำหนดวันเลือกตั้งทั่วไปวันที่ 24 มี.ค.62 แรงซื้อกลับจากฝั่งนักลงทุนสถาบันในประเทศช่วยหนุนดัชนี SET index ขณะที่นักลงทุนต่างชาติชะลอแรงขายลงไปมาก ประเด็นสำคัญที่นักลงทุนให้ความสนใจ และน่าจะเป็นปัจจัยหลักที่หนุนดัชนี SET index ให้ฟื้นตัวขึ้นมาได้ คือ การกำหนดวันเลือกตั้งที่ชัดเจน เนื่องจาก จากสถิติในอดีต การเลือกตั้งทั่วไปของประเทศไทย 9 ครั้งหลังสุด ดัชนี SET index จะปรับขึ้นเฉลี่ยราว 7.1% ก่อนการเลือกตั้ง 3 เดือน และนักลงทุนคาดหวังว่าเม็ดเงิน Fund flow จากต่างชาติที่เคยให้เหตุผลเรื่องการเมืองไทยว่าเป็น 1 ในเหตุผลที่ Underweight ตลาดหุ้นไทย มาตลอดจะกลับมาภายหลังการเลือกตั้ง
วิเคราะห์สถิติการเลือกตั้งของไทยกับหุ้น จะพบว่า โดยปกติแล้วกลุ่มอุตสาหกรรมที่จะปรับขึ้นแรง Outperform market จะได้แก่ กลุ่มธนาคารพาณิชย์, กลุ่มค้าปลีก, กลุ่มอสังหาฯ, และกลุ่มสื่อ ซึ่งไม่แปลกใจเลยที่จะเป็นหุ้นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจในประเทศ เนื่องจากโดยทั่วไปแล้วก่อนการเลือกตั้ง การใช้จ่ายเพื่อหาเสียงของพรรคการเมืองต่างๆ รวมทั้งความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่จะดีขึ้น ทำให้การจับจ่ายใช้สอยเร่งตัวขึ้นในช่วงก่อนการเลือกตั้ง ทำให้หุ้นที่เกี่ยวข้อง หรือ มีรายได้เชื่อมโยงกับการบริโภคในประเทศจะมีแนวโน้มปรับขึ้นเด่นกว่ากลุ่มอื่น
อย่างไรก็ดี หากมาพิจารณาสถิติการเลือกตั้งกับตลาดหุ้นไทยเพิ่มเติม จะพบสิ่งที่น่าสนใจคือ ภายหลังการเลือกตั้ง 3 เดือน ดัชนี SET index จะปรับตัวลงเฉลี่ย -7.1% (คืนทุนที่ปรับขึ้นมา) เนื่องมาจากการขายทำกำไรของนักลงทุนนั่นเอง ดังนั้นจึงอยากให้นักลงทุนที่เข้าเก็งกำไรจากประเด็นการเลือกตั้ง ระมัดระวังการลงทุนในช่วงใกล้วันเลือกตั้ง โดยต้องกำหนดนโยบายการลงทุน (ขายทำกำไร) ตามความสามารถรับความเสี่ยงของตนเอง โดยหุ้นกลุ่มที่น่าสนใจคือโดยเฉลี่ยแล้วจะยังเดินหน้าบวกต่อเล็กน้อยภายหลังการเลือกตั้ง ก็คือ หุ้นกลุ่มค้าปลีก แนะนำ CPALL, COM7
สำหรับภาพรวมการลงทุนสัปดาห์นี้ คาดว่าจะ Sideway ในกรอบ 1620 – 1660 จุด (กรณี Breakdown ต่ำกว่า 1620 จุด ประเมินแนวรับถัดไป 1605 จุด) โดยปัจจัยลบในสัปดาห์นี้ที่อาจกดดันบรรยากาศการลงทุนคือ การเริ่มรายงานผลการดำเนินงานของหุ้นกลุ่ม Real sector ที่จะเริ่มต้นโดย SCC* (คาดกำไร 4Q61 อ่อนแอ ลดลงทั้ง YoY และ QoQ) ซึ่งอาจจะทำให้แนวโน้มการปรับประมาณการกำไรปี 2562 ของนักวิเคราะห์เริ่มต้นกดดันภาพรวมการลงทุนได้เช่นกัน
โดยสุโชติ ถิรวรรณรัตน์รู้ทันการลงทุน กับ KGI
www.mitihoon.com