ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.แม็คกรุ๊ป หรือ MC ดำเนินธุรกิจค้าปลีกเครื่องแต่งกายและไลฟ์สไตล์ ภายใต้เครื่องหมายการค้าของกลุ่มบริษัท และเครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่น โดยนางสาวสุณี เสรีภาณุ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยว่า แผนดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังของงบการเงินปี 61/62 (1 ก.ค. 61-30 มิ.ย.62) บริษัทได้ปรับกลยุทธ์มุ่งเน้นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับตราสินค้าทั้ง 3 กลุ่ม ประกอบด้วย 1.กลุ่มเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายนำโดยแบรนด์ Mc Jeans เครื่องแต่งกาย Denim และ Non-denim และแบรนด์ U-P (ยู-พี) เสื้อผ้าสไตล์ Sport casual, 2.กลุ่ม Fashion Accessories โดยมีทั้งแบรนด์ Mc, U-P และแบรนด์นาฬิกาต่าง ๆ ของ Timedeco และ 3.กลุ่มผลิตภัณฑ์ Personal care โดยแบรนด์ M&C
นายบัณฑิต ประดิษฐ์สุขถาวร ประธานเจ้าหน้าที่ด้านการเงินและบัญชีและผู้บริหารฝ่ายพัฒนาธุรกิจ กล่าวว่า จากการฟื้นตัวของกำลังซื้อ และภาวะเศรษฐกิจไทยที่ปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง มั่นใจว่าจะผลักดันยอดขายปี 62 เติบโต 5% โดยมาจากการขยายจุดขาย การสร้างแบรนด์ และการออกสินค้าใหม่ ส่วนอัตรากำไรขั้นต้น น่าจะอยู่ในระดับ 57% ขณะที่อัตรากำไรสุทธิ น่าจะอยู่ในระดับ 14-15%
ทั้งนี้ บริษัทให้ความสำคัญกับกลยุทธ์ Omni channel ที่เป็นการเชื่อมต่อทุกช่องทางการจัดจำหน่าย โดยปีนี้มีการจัดสรรงบกว่า 200 ล้านบาท ทำการตลาดเชิงรุกและขยายจุดขายเพิ่ม 40 แห่ง จากปัจจุบัน 927 แห่ง ตั้งเป้าถึง 1,000 จุดขาย ภายใน 2 ปีข้างหน้า พร้อมขยายฐานลูกค้าใหม่ผ่านโมเดลร้านค้า “mcmc Outlet Store” ที่มีการเพิ่มจุดจำหน่ายภายใต้ความร่วมมือ กับพันธมิตรปั๊มน้ำมันปตท. และสยาม โกลบอลเฮ้าส์ ขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจา พันธมิตรใหม่ 2-3 ราย ทั้งในและต่างประเทศ ในการขยายความร่วมมือในการทำตลาด
นอกจากนี้ บริษัทได้พัฒนาช่องทางออนไลน์มาร์เก็ตเพลส Mcshop.com โดยเพิ่มการสรรหาสินค้าภายใต้แบรนด์ชั้นนำระดับโลกของพันธมิตรรายอื่นๆที่เป็นที่นิยมของคนไทยเข้ามานำเสนอต่อฐานลูกค้าหลายล้านคนของแม็คกรุ๊ป ซึ่งล่าสุด บริษัทได้เข้าลงทุนใน ‘Mcmillion’ ซึ่งเป็นผู้บริหารคลังสินค้าและการจัดส่งสินค้าแบบครบวงจรสำหรับธุรกิจอีคิมเมิร์ซเพื่อรองรับการเติบโตในระยะยาวและลดระยะเวลาการจัดส่งสินค้าสำหรับลูกค้าที่สั่งซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ให้สั้นที่สุด
อีกทั้งบริษัทยังคงเดินหน้าเพิ่มฐานสมาชิก MC Club ซึ่งในขณะนี้มีสมาชิกมากกว่า 650,000 คน ตั้งเป้าหมาย 1 ล้านคนภายใน 1 ปี โดยในไตรมาสนี้จะเริ่มนำ โมบาย แอพพลิเคชั่น เข้ามาใช้เป็นช่องทางสื่อสารและนำเสนอแคมเปญที่เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละกลุ่มและรายบุคคล และได้เพิ่มงบการตลาดกว่า 20 ล้านบาท เพื่อมุ่งเน้นการสร้างการรับรู้ของแบรนด์และการขยายฐานลูกค้าใหม่
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเดือน มี.ค. นี้ บริษัทมีแผนเดินทางไปนำเสนอข้อมูล (โรดโชว์) ให้กับนักลงทุนสถาบัน ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนเกี่ยวกับความคืบหน้าของบริษัทและสถานการณ์เศรษฐกิจในประเทศไทย โดยปัจจุบันมีนักลงทุนต่างชาติถือหุ้นของบริษัทในสัดส่วนราว 17-18%
