ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.บางกอกชีทเม็ททัล หรือ BM โดยนายธานิน สัจจะบริบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยว่า บริษัทได้ลงนามเซ็นสัญญา (MOU) กับบริษัท “เกรท เมอริทส์ และ “ทูน สตาร์” พันธมิตรจากประเทศเมียนมา และหลังจากนี้จะมีการจัดตั้งบริษัทร่วมทุ่นกับ โดยบริษัทจะถือหุ้น 50% และพันธมิตรจากประเทศเมียนมา 50% ซึ่งหลังจากนี้บริษัทเตรียมศึกษาและหาพื้นที่ในการสร้างโรงงานผลิตสิ้นค้าในเมียนมาร์ เนื่องจากที่ผ่านมาบริษัทได้มีการส่งออกสินค้าเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้มีค่าใช้จ่ายในการขนส่งสูง
ขณะเดียวกัน บริษัทคาดว่าจะใช้งบลงทุนรวมประมาณ 200 ล้านบาท เพื่อใช้ในการซื้อที่ดิน และเครื่องจักรในการผลิต ส่วนระยะเวลาในการก่อสร้างคาดว่าหากได้ข้อสรุปเรื่องที่ดินและใบอนุญาติส่งเสริมการลงทุนจะเริ่มทำการก่อสร้างได้ทันที โดยจะใช้ระยะเวลาก่อสร้างแระมาณ 1 ปี อย่างไรก็ตามภายหลังจากเริ่มเดินเครื่องการผลิตจะสามารถสร้างสัดส่วนยอดขายในเมียนมาเติบโตแบบก้าวกระโดด จากเดิมที่มียอดขายเพียง 5 ล้านบาท/ปี
ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 62 จะเติบโตอยู่ที่ระดับ 20% เนื่องจากช่วงไตรมาส 1-2/62 จะเริ่มรับรู้รายได้จากการเป็นซับคอนเทรคงาน “USO NET เฟส 2” ประมาณ 5,000-10,000 ตู้ หรือมูลค่า 170 ล้านบาท และมีโอกาสได้รับงานเพิ่มเติม รวมถึงเตรียมเข้ารับงานและประมูลงานภายใต้งานโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐบาลและเอกชน ซึ่งจะสนับสนุนให้ Backlog เพิ่มขึ้น จากปัจจุบันที่ 500 ล้านบาท รวมถึงบริษัทยังรับรู้ส่วนแบ่งรายได้จากการลงทุนในสัดส่วน 20% ใน “บจ.เอ็ม อี ซี ทีหรือ MECT” อีกด้วย
รวมถึงล่าสุดพันธมิตรรายใหญ่จากสหรัฐฯ ได้เจรจาสั่งผลิตเฟอร์นิเจอร์เหล็กในไลน์ผลิตแรกเพิ่มเป็น 10,000ชิ้น/เดือน หรือเฉียด 300 ล้านบาทต่อปี จากเดิมที่ 5,000 ชิ้น/เดือน หรือเพียง180 ล้านบาท/ปีเท่านั้น คาดจะเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ (COD) ในไตรมาส 2/62 และเตรียมรับไลน์ผลิตที่ 2 ซึ่งเป็นสินค้าประเภทอื่นๆต่อไปด้วย
สำหรับความคืบหน้าการจับมือกับพันธมิตร เพื่อ “จัดตั้งบริษัทร่วมทุน” ได้มีการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนแล้วโดยใช้ชื่อ “บริษัท ผลิตยานยนต์ไฟฟ้า จำกัด” เพื่อผลิตรถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้าส่งในพื้นที่จังหวัด จ.เชียงใหม่ และมองโอกาสส่งออกไปยุโรปด้วย เบื้องต้น BM จะเป็นทั้งฐานการผลิต และถือหุ้นประมาณ 19% ส่วนที่เหลือ 81% เป็นของ “บริษัท ยานยนต์ไฟฟ้า จำกัด” ของทุนจดทะเบียนทั้งหมด
ทั้งนี้ ตั้งเป้าส่งรถตุ๊กตุ๊กพลังงานไฟฟ้าในปีนี้ประมาณ 200 คัน ในพื้นที่เชียงใหม่ และคาดจะเริ่มเปิดรับออเดอร์ล็อตแรกหลังตรุษจีนนี้ประมาณ 50 คัน โดยมีราคาขายอยู่ที่ 3.7-4 แสนบาท/คัน รวมถึงอนาคตจะมีการพัฒนารถไฟฟ้าในรูปแบบอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง อาทิ รถกอล์ฟ และรถให้บริการในโรงแรม
www.mitihoon.com
