ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย หรือ JKN ผู้จัดจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ระดับสากล โดยนายจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยว่า บริษัทได้เตรียมความพร้อมในการดำเนินธุรกิจสถานีข่าวช่อง CNBC Thailand และผลิตคอนเทนต์ภายใต้แบรนด์ CNBC โดยการนำรายการเศรษฐกิจระดับโลกมาผลิตเป็นภาษาไทยเพื่อออกอากาศในช่อง JKN CNBC คาดว่าจะเริ่มออกอากาศได้ในช่วงกลางปี 62 นี้ หลังจากไตรมาส2/60 ได้เริ่มจำหน่ายคอนเทนต์รายการภายใต้แบรนด์ CNBC ให้แก่ผู้ประกอบการสถานีโทรทัศน์แบบดิจิตอล เช่น ช่อง 3 และ Bright TV แล้ว โดยได้คัดเลือก 4 รายการมาผลิต ได้แก่ รายการ Squawk Box, รายการ Power Lunch, รายการ Street Signs และรายการ Closing Bell โดยเนื้อหาทุกรายการจะเน้นสร้างความเข้าใจแบบง่ายๆ สามารถนำไปใช้ประกอบการลงทุนได้จริง รวมถึงมีสัมภาษณ์แบบเอ็กซ์คลูซีฟ และล่าสุดได้แตกไลน์ธุรกิจสู่การรับจัดอีเวนต์ส่งเสริมการตลาดที่เกี่ยวข้องกับงานมหกรรมด้านการเงินและการลงทุน เพื่อเสริมความครบวงจรและเพิ่มช่องทางสร้างรายได้บริษัทมากยิ่งขึ้น
นายธีรภัทร์ เพ็ชรโปรี ผู้อำนวยการสายการเงินและบัญชี กล่าวว่า บริษัทวางแผนออกอากาศในช่องทีวีดิจิตอล 3 สถานี โดยขณะนี้ได้มีการเซ็นสัญญากับช่องทีวีดิจิตอลแล้ว 2 สถานี และอยู่ระหว่างเจรจาเซ็นสัญญาเพิ่มเติมอีก 1 สถานี คาดว่าจะได้ข้อสรุปในเร็วๆ นี้ โดยคาดหวังจะสร้างรายได้จากสปอนเซอร์ในการออกอากาศสถานีข่าวในช่อง JKN CNBC ประมาณ 100 ล้านบาท/ปี โดยในปีแรกที่ออกอากาศคาดหวังจะมีกำไรเข้ามาเล็กน้อยประมาณ 10 ล้านบาท เนื่องจากยังมีค่าใช้จ่ายด้านอุปกรณ์การผลิตรายการ และด้านบุคลากร
นักวิเคราะห์ บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ประเมินจากราคาหุ้น JKN ที่ปรับตัวลงมา -21% ใน 3 เดือนที่ผ่านมา ได้สะท้อนปัจจัยลบเกี่ยวกับการคืนช่องดิจิทัลทีวีไปพอสมควรแล้ว โดยมองว่าการที่ กสทช. อาจอนุญาตให้คืนช่องดิจิทัลทีวี จะไม่กระทบต่อรายได้หลักของ JKN ซึ่งมีรายได้จากทีวีดิจิทัลอยู่ที่ 60% ของรายได้รวม และลูกค้ารายใหญ่ที่มีสัดส่วนรายได้ถึง 80% ของรายได้ทีวีดิจิทัลของ JKN คือ กลุ่มลูกค้าที่มีเรตติ้ง Top 10 ,มีฐานะการเงินแข็งแกร่ง และมีแผนดำเนินธุรกิจระยะยาว เช่น ช่อง 3, ช่อง 8, Bright TV, ช่อง 5 และ ONE มีแนวโน้มที่จะดำเนินธุรกิจต่อไปไม่คืนช่อง ทั้งนี้ เรายังไม่ได้รวมรายได้จาก จากซีรี่ส์ “สยามรามเกียรติ์” คาดเริ่มรับรู้รายได้ในปี 2563 และco-production ในการประเมินราคาหุ้น ดังนั้น คงคำแนะนำ “ซื้อ” ปรับราคาเป้าหมายเป็น 12.40 บาท
www.mitihoon.com