ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น หรือ WHA โดยนางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เผยว่า แผนธุรกิจปี 2562 ตั้งเป้ารายได้และส่วนแบ่งกำไรจะเติบโตเพิ่มกว่า 70% เมื่อเทียบกับปีก่อน จากทั้ง 4 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ กลุ่มโลจิสติกส์, กลุ่มธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม, กลุ่มธุรกิจสาธารณูปโภคและพลังงาน และกลุ่มธุรกิจดิจิทัลแพลตฟอร์ม และคาดอัตราผลกำไรของ EBITDA โตมากกว่า 30% ในขณะที่อัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อทุน (D/E) ต่ำกว่า 1.1 เท่า
โดยการดำเนินงานในกลุ่มโลจิสติกส์ เตรียมขยายพื้นที่อาคารคลังสินค้าระดับพรีเมี่ยมอีก 200,000 ตร.ม. ส่งผลให้มีพื้นที่ในการครอบครองและบริหารจัดการเพิ่มเป็น 2.5 ล้านตารางเมตร จากปีก่อน 2.3 ล้านตารางเมตร และมีโครงการที่อยู่ระหว่างเตรียมก่อสร้างในปีนี้ ได้แก่ โครงการดับบลิวเอชเอ อี-คอมเมิร์ซพาร์ค จ.ฉะเชิงเทรา โครงการดับบลิวเอชเอ-เจดี อี-คอมเมิร์ซ เซ็นเตอร์ และโครงการดับบลิวเอชเอ เมกะ โลจิสติกส์ เซ็นเตอร์ แหลมฉบัง 2
ขณะเดียวกัน ยังมองหาโอกาสใหม่ๆ เพื่อขยายการลงทุนไปยังกลุ่มประเทศ CLMV โดยเน้นไปที่ประเทศอินโดนีเซีย และเวียดนามเป็นหลัก และตั้งเป้าขายสินทรัพย์เข้ากอง REIT 5,750 ล้านบาท ผ่านกอง REIT ของบริษัทมูลค่า 34,300 ล้านบาท ในช่วงปลายปี 62 นี้
ด้านกลุ่มธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมตั้งเป้าขายที่ดิน 1,600 ไร่ จากปี 61 คาดทำได้ 1,000 ไร่ และมีแผนเปิดตัวนิคมอุตสาหกรรมเพิ่มอีก 1 แห่ง ในไทย ส่งผลให้มีนิคมฯ ที่ดำเนินการแล้วรวม 11 แห่ง โดย 10 แห่งตั้งอยู่ในไทย และอีก 1 แห่งในเวียดนาม ซึ่งในปีนี้บริษัทเตรียมที่จะพัฒนาที่ดินจำนวน 2,650 ไร่ ทำให้มีที่ดินที่อยู่ภายใต้การดำเนินงานและที่ดินส่วนที่กำลังพัฒนาเพิ่มขึ้นเป็น 43,150 ไร่
ในขณะที่กลุ่มธุรกิจสาธารณูปโภคและพลังงาน ตั้งเป้าการผลิต และจำหน่ายน้ำที่ 120 ล้านลบ.ม. รวมทั้งผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ตามสัดส่วนการถือหุ้น 570 เมกะวัตต์ จากโรงไฟฟ้าพลังงานเชื้อเพลิงเชิงพาณิชย์ และพลังงานทดแทน พร้อมเสริมโซลูชั่นระบบน้ำและพลังงานใหม่ๆ ขณะเดียวกันมีแผนผนึกความร่วมมือกับพันธมิตรในระยะยาว ได้แก่ GULF, GLOW และ BGRIM อีกทั้งยังมีความร่วมมือกับมิตซุย และโตเกียวแก๊ส ในด้านธุรกิจการจัดจำหน่ายก๊าซธรรมชาติที่จะเข้ามาเสริมเป็นบริการใหม่สำหรับลูกค้า พร้อมศึกษาเทคโนโลยีและแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นใหม่ๆ เช่น สมาร์ทกริด ระบบการจัดเก็บพลังงาน โรงไฟฟ้าพลังงานก๊าซและโซลาร์เซลล์ลอยน้ำ
ส่วนกลุ่มธุรกิจดิจิทัลแพลตฟอร์มเร่งปรับโฉมทุกนิคมอุตสาหกรรมให้เป็นดิจิทัลเต็มรูปแบบ โดยปัจจุบันมีดาต้าเซนเตอร์ทั้งหมด 4 แห่ง ซึ่งให้บริการเทคโนโลยีไฟเบอร์ออพติก (FTTx) ใน 5 นิคมอุตสาหกรรมของกลุ่ม และมีเป้าหมายที่จะขยายฐานลูกค้าและการบริการให้ครอบคลุมทุกนิคมอุตสาหกรรมภายในสิ้นปีนี้
นางสาวจรีพร กล่าวว่า ปีนี้บริษัทมีแผนออกหุ้นกู้มูลค่าราว 7,000 ล้านบาท เพื่อรีไฟแนนซ์ ในช่วงระหว่างเดือน พ.ค. – ก.ย. นี้ โดยได้ขออนุมัติจากผู้ถือหุ้นไว้แล้ว เพื่อนำลดต้นทุนดอกเบี้ยให้เหลือประมาณ 3.5% ในปีนี้ จากช่วงปลายปีก่อนที่ราว 3.9% ส่วนแผนยื่นซื้อหุ้น ‘โกลว์ เอสพีพี 1’ บริษัทเป็นหนึ่งในผู้ได้รับเชิญให้ยื่นข้อเสนอ เบื้องต้นยังอยู่ในระหว่างศึกษา คาดว่าจะได้ข้อสรุปในช่วงต้นเดือน ก.พ. นี้
อย่างไรก็ตาม บริษัทวางแผนงาน 5 ปี (61-65) คาดจะมีรายได้เติบโตเฉลี่ยปีละ 15% และจะใช้งบลงทุน 5 ปี จำนวน 45,000 ล้านบาท โดยคาดจะมีกำไรก่อนหัก ดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อม มากกว่าระดับ 30,000 ล้านบาท
www.mitihoon.com
