หุ้นใหญ่ๆ เกือบทั้งกระดาน “เขียวพรึ่บ” แต่นักลงทุนที่ถือ บมจ.อมตะ คอร์ปอเรชั่น หรือ AMATA อยู่ คงเสียอารมณ์ที่ราคาหุ้นเมื่อวันที่ 6 ก.พ.ที่ผ่านมา “ปรับลดลง” สวนทางชาวบ้าน แถมลงแรงซะด้วย ทั้งๆ ที่ควรจะขึ้น เพราะตลาดไม่มีปัจจัยลบ
อาจจะเป็นว่า รอบนี้ AMATA แรลลี่ขึ้นมาต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงกลางเดือน ม.ค. จากระดับ 20 บาทนิดๆ วิ่งมาเกือบชน 23 บาท ซึ่งเป็นแนวที่มาชนแล้วไม่ผ่าน ..อย่างที่บอก หุ้นมีขึ้นก็มีลง อยู่ที่การจับจังหวะเข้าออก นักลงทุนที่จับจังหวะเป็น จะได้เปรียบอยู่บ้าง
ในส่วนของธุรกิจ AMATA ยังเติบโตได้ต่อเนื่อง โดยแนวโน้มผลดำเนินงานงวดไตรมาส 1/62 จะเติบโตโดดเด่น เนื่องจากยอดขายที่ดินส่วนใหญ่เกิดขึ้นช่วงปลายปี 61 ทำให้การโอนเริ่มตั้งแต่ต้นปีเป็นต้นไป โดยขณะนี้มียอดขายรอโอน (Backlog) มากกว่า 3,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังมีธุรกิจไฟฟ้าพลังงานทดแทน ที่มีกำลังการผลิตรวม 1,400 เมกะวัตต์ แต่เป็นส่วนที่บริษัทถือหุ้นราว 260 เมกะวัตต์ รับรู้เป็นส่วนแบ่งกำไรเข้ามาสม่ำเสมอทั้งปี ส่วนธุรกิจจำหน่ายที่ดิน ในปีนี้คาดจะมีการลงทุนมากกว่าปีอื่นๆ เนื่องจากภาคเอกชนกลับมามีกำลังซื้อและการเลือกตั้งที่มีความชัดเจน จากปี 61 สามาถขายที่ดินทั้งในไทยและเวียดนามได้ราว 1,000 ไร่
ด้าน บล.เคทีบี (ประเทศไทย) คาดกำไรสุทธิ Q4/61 ที่ 431 ล้านบาท (+36%YoY, +43%QoQ) จากยอดโอนที่ดินที่เพิ่มสูงขึ้นที่ 248 ไร่ จาก Q4/60 ที่ 146 ไร่ และ Q3/61 ที่ 39 ไร่ ทั้งนี้ยอดโอนข้างต้นส่วนใหญ่กว่า 50% เป็นของนิคมอมตะ ไทย-ไชนีส ซึ่งสร้างแรงกดดันให้ GPM ลดลง คาดที่ 49% ทั้งนี้ ได้ปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 62 ลง 3% อยู่ที่ 1.6 พันล้านบาท (+19%YoY) จากการปรับลด GPM ตามสัดส่วนยอด Pre-sale ที่ดินในนิคมอมตะ ไทย-ไชนีส ที่เพิ่มขึ้น และเพิ่มค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน ตามแนวโน้มค่าใช้จ่ายด้านการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมที่เพิ่มขึ้นจากการคัดค้านผังเมืองอีอีซี
จึงปรับลดราคาเหมาะสมเป็น 28.00 บาท (อิง PBV 2.0x เทียบเท่า +0.5SD) จากเดิม 32.00 บาท (อิง PBV 2.3x) แต่ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ”
www.mitihoon.com