ดัชนี SET index สัปดาห์ที่ผ่านมาเริ่มมีแรงขายทำกำไรบริเวณ 1660 จุด ตามคาด โดยเราประเมินว่าสัปดาห์นี้นักลงทุนน่าจะยังคงเริ่มการขายทำกำไรและเปลี่ยนตัวเล่นโดยจะเริ่มพุ่งเป้าความสนใจไปที่หุ้นรายตัวที่ผลประกอบการจะออกมาดี หรือ ออกมาแย่แต่จะดีใน 1Q62 (Bottom out ผ่านจุดแย่สุด) ดังนั้นเรายังคงแนะนำกลยุทธ์เดิมที่แนะนำในสัปดาห์ก่อน คือ “Let profit run” โดยกำหนดจุดขายทำกำไร หรือ Trailing stop บ้าง โดยอาจกำหนดเส้นค่าเฉลี่ย 10 วันเป็นเกณฑ์ในการพิจารณาขายทำกำไร / ขายตัดขาดทุน6
1) กลุ่มหุ้นที่คาดว่าผลการดำเนินงานจะออกมาดีใน 4Q61 เช่น กลุ่มค้าปลีก (CPALL, COM7, ROBINS เป็นต้น) กลุ่มสื่อ (RS, PLANB) กลุ่มไฟแนนซ์ (MTC) เป็นต้น ซึ่งหุ้นในกลุ่มเหล่านี้แม้จะมีการปรับตัวขึ้นมาแล้วก็ตาม แต่ประเมินว่าแนวโน้มผลการดำเนินงาน 1Q62 น่าจะยังเดินหน้าบวกต่อได้ (Sentiment บวกจากการเลือกตั้ง และยังเป็น High season) ดังนั้นอาจพิจารณาเก็งกำไรได้ แต่ต้องกำหนดจุด Stop loss ไว้ด้วย เผื่อในกรณีนักลงทุนขายทำกำไรในลักษณะ Sell on fact สำหรับนักลงทุนที่ยังถือหุ้นกลุ่มนี้อยู่อาจใช้เส้นค่าเฉลี่ย 10 วัน เป็นเกณฑ์ในการกำหนดจุดขายทำกำไรหรือ Trailing stop
2) หุ้นกลุ่มที่คาดว่าผลการดำเนินงานออกมาแย่ แต่ 1Q62 จะพลิกกับมาดี เช่น กลุ่มพลังงาน (TOP, SPRC, SGP) โดยหุ้นกลุ่มนี้ผลการดำเนินงาน 4Q61 คาดจะออกมาอ่อนแอ จากการบันทึกผลขาดทุนสต๊อก เนื่องจากราคาน้ำมันดิบปรับลงแรงใน 4Q61 แต่ราคาน้ำมันดิบพลิกกลับรีบาวด์แรงตั้งแต่ต้นปี 2562 ทำให้แนวโน้มผลการดำเนินงาน 1Q62 คาดจะพลิกกลับมาเป็นบวกได้ ดังนั้นเมื่อรายงานผลการดำเนินงาน 4Q61 ที่อ่อนแอออกมา เราประเมินว่าเป็นโอกาสในการเข้าช้อนซื้อเก็งกำไร หรืออาจมีโอกาสที่จะเกิดแรงซื้อกลับทันทีในลักษณะ Buy on fact ก็ได้
ดังนั้นโดยวรุปกลยุทธ์การลงทุนในสัปดาห์นี้ เราแนะนำให้พิจารณาขายทำกำไรหุ้นที่ Outperform มาในช่วง 1 – 2 เดือนที่ผ่านมา หากหลุดจุด Trailing stop (อาจใช้ค่าเฉลี่ย 10 วัน หรือวิธีอื่นในการพิจารณาได้ตามที่นักลงทุนถนัด) และเปลี่ยนตัวเล่นมายังหุ้นที่ยัง Laggard หรือมีประเด็นเรื่องผลการดำเนินงานที่เรากล่าวถึงข้างต้น สำหรับดัชนี SET index ประเมินแนวต้าน 1665 จุด หากผ่านได้มีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป 1680 จุด / แต่หากไม่ผ่านประเมินมีโอกาสลงทดสอบรับ 1640 จุด และถัดไป 1625 จุด ตามลำดับ
โดยสุโชติ ถิรวรรณรัตน์